วานนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม แอสตราเซเนกา ได้ระบุว่า วัคซีนแอสตราเซเนกาที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยจากสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียบร้อยแล้ว โดยจะนำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน (EUL) ซึ่งการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ก็มีผลทันที และครอบคลุมไปถึงวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยที่ได้ผลิตออกไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ทางด้านองค์การอนามัยโลก เผยว่า การขึ้นทะเบียนให้สามารถนำวัคซีนแอสตราเซเนกามาใช้ในภาวะฉุกเฉินได้นั้น จะเริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการช่วยให้สามารถเข้าถึงวัคซีน และเพื่อเป็นการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
ทั้งนี้ นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตราเซเนกา (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ทางแอสตราเซเนกา มีความยินดีอย่างมากที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรองวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการช่วยให้เกิดประโยชน์ในการเดินทางผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาครบแล้วด้วยนั่นเอง รวมถึง นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ยังได้กล่าวด้วยว่า การผลิตวัคซีนแอสตราเซเนกาในไทยนั้น ทุก ๆ รอบการผลิตจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพเสมอ เมื่อได้รับผลการรับรองจาก WHO นี่จึงถือเป็นข่าวดี และช่วยตอกย้ำว่าวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์นั้นมีคุณภาพ