เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่วัคซีน Sinovac ใช้ไม่ได้ผล และพร้อมที่จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของโควิด-19 ในประเทศไทยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ประเทศไทยจึงมองหาวัคซีน AstraZeneca, Pfizer และวัคซีนอื่น ๆ เพื่อฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ต้องการมากที่สุด รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย
ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประกาศเพิ่มการตรวจเชื้อ เพิ่มโรงพยาบาลสนาม กักตัวที่บ้านสำหรับการติดเชื้อที่ไม่รุนแรง การกักตัวในชุมชน และแม้แต่การนำยาแผนไทยมาเสริมยาแผนปัจจุบัน การฉีดวัคซีนก็ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเอาชนะโควิด-19 พวกเขาได้วางแผนสำหรับวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส และวัคซีน AstraZeneca อีก 1.05 ล้านโดสที่มาถึงประเทศไทยโดยได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น มีการประกาศก่อนหน้านี้ว่าวัคซีนจะมุ่งเน้นไปที่ผู้อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือมีโรคประจำตัว แต่ตอนนี้ชาวต่างชาติรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้เพิ่มพนักงานแนวหน้าลงในรายชื่อผู้ที่ต้องฉีดวัคซีน เช่น นักเรียน นักการทูต และนักกีฬาที่ต้องการวัคซีน Pfizer เพื่อเดินทางไปต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นมะเร็ง หรือโรคเรื้อรังที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน
ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ตัวเลขที่แน่นอนเกี่ยวกับการแจกจ่ายในสัปดาห์นี้ พวกเขากล่าวว่า วัคซีน AstraZeneca ปริมาณ945,000 โดสจะมอบให้คนไทย ในขณะที่อีก 105,000 โดสได้รับการจัดสรรสำหรับชาวต่างชาติ