ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันพุธ เนื่องจากความกังวลว่าอุปทานจะตึงตัว และการขาดทุนของสินค้าคงคลังของสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าประเทศต่าง ๆ จะพยายามจำกัดการเคลื่อนไหว เพื่อสกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธุ์ Omicron
สินค้าคงคลังของสหรัฐฯ ลดลงเกินคาด โดยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.7 ล้านบาร์เรล ถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการพิจารณาภาษีสิ้นปีที่กระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ ไม่จัดเก็บบาร์เรลน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 52 เซนต์หรือ 0.7% สู่ 74.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากเพิ่มขึ้น 3.4% ในช่วงที่แล้ว ทางด้าน ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 71.79 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.9% การจัดเก็บน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ล่าสุด ทำให้เกิดความกังวลว่า นักเดินทางชาวอเมริกันจะเปลี่ยนแผนอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก โควิดทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
การควบคุมการเคลื่อนที่ทั่วโลก ทำให้ความกลัวความต้องการเชื้อเพลิงลดลง เยอรมนี, ไอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศ ที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนหรือทั้งหมด หรือมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา