เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นางแคร์รี่ หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ออกคำแลงการณ์คำสั่งไปถึงประชาชน 7.5 ล้านคนว่า ทุกคนจะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิดจำนวน 3 ครั้ง ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ พร้อมกับยืนยันว่าฮ่องกงจะเพิ่มศักยภาพในการตรวจให้สามารถตรวจได้มากถึง 1 ล้านคนต่อวัน หรืออาจจะมากกว่านั้น
นอกจากนี้ ผู้นำของฮ่องกงก็ยังประกาศขยายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมไปจนถึงวันที่ 20 เมษายนนี้ พร้อมกับระบุด้วยว่า จะทำการเพิ่มอัตราของการรับวัคซีนให้ได้มากถึง 90% โดยจะทำให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ขณะเดียวกันทางการก็กำลังเร่งสร้างศูนย์กักตัว และโรงพยาบาลสนามเพิ่ม เนื่องจากว่าตอนนี้ที่มีอยู่นั้นไม่พอต่อความต้องการ
การแถลงการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีขึ้นในช่วงที่ฮ่องกงกำลังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 คนต่อวัน ซึ่งสิ่งนี้ก็ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณสุข และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะผู้เชี่ยวชาญจากจีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้เดินทางไปยังฮ่องกง พร้อมกับนำอุปกรณ์ทางการแพทย์มาด้วย เพื่อใช้สำหรับการช่วยเหลือฮ่องกงในการควบคุมการแพร่ระบาด
