ผลการคุมโควิดซึ่งเป็นมาตรการของรัฐ ปัจจัยฟื้นความเชื่อมันผู้บริโภค

ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับผู้บริโภคนั้นมีการลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 4 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมของผู้บริโภคนั้นปรับลดลงมาต่ำสุดในรอบ 9 เดือนโดยนับมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ยอดรวมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีความเห็นว่าแย่เกี่ยวกับเศรษฐกิจมีอยู่ 61.4 เปอร์เซ็นต์ ความเห็นปานกลาง มีอยู่ 35.6 เปอร์เซ็นต์ และความเห็นว่าดีมีอยู่ 3.0 เปอร์เซ็นต์ และความเห็นเกี่ยวกับรายได้ของประชาชนในอนาคตพบว่า ผู้ที่มีความเห็นว่าแย่มีอยู่ 48.7 เปอร์เซ็น มีความเห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลงมีอยู่ 45.7 เปอร์เซ็นต์ และมีความเห็นว่าดีมีอยู่ 5.6 เปอร์เซ็นต์

เสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 พบว่าอยู่ในระดับ 47.8 ซึ่งลดจากเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ที่ระดับ 50.1 และดัชนีเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่าผู้บริโภคมีความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทั้งในไทยและทั่วโลก

ทางภาครัฐจึงจัดทำโครงการต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง และเพื่อไม่ให้ประชาชนอยู่อย่างลำบากจนเกินไป มีทั้งโครงกรเราชนะ โครงกันคนละครึ่ง และโครงการเรารักกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก