นายธีรวัฒน์ เหมะชุธาจากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งโรคอุบัติใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า 3 หรือ 4 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน บางคนไม่มีภูมิคุ้มกันหรือมีระดับต่ำ 20-30%
รายงานยังกล่าวต่อไปว่าเพื่อให้วัคซีนได้รับการพิจารณาว่ามีประสิทธิภาพ ความสามารถในการยับยั้งไวรัสจะต้องสูงกว่า 20% เป็นที่เข้าใจกันว่าคนที่ได้รับวัคซีนโดยปกติจะมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับต่ำ ปานกลาง ไปถึงสูง แต่การตอบสนองนั้นจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการฉีดวัคซีน ธีรวัฒน์ยกตัวอย่างวัคซีนพิษสุนัขบ้า การฉีดวัคซีนเต็มรูปแบบต้องฉีดในวันที่ 1 วันที่ 3 และวันที่ 7 ผู้ป่วยบางรายจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันประมาณวันที่ 10 และทุกคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนจะแสดงภูมิคุ้มกันภายในวันที่ 14 ระดับภูมิคุ้มกันต่ำ (น้อยกว่า 20%) เกิดขึ้นในบางคนที่ได้รับวัคซีนในวันเดียวกันและใช้วัคซีนชนิดเดียวกัน ซึ่งทำให้ธีรวัฒน์คาดการณ์ว่าอาจมีปัญหากับบางกลุ่ม เขาเสริมว่าผู้ที่แสดงภูมิคุ้มกันในระดับต่ำมากบางคนมีภาวะสุขภาพที่แฝงอยู่ รวมทั้งโรคเบาหวาน ซึ่งจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขา
ตามรายงานของ Nation Thailand ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนหนึ่งติดเชื้อแม้จะได้รับวัคซีน Sinovac สองโดสหรือ AstraZeneca หนึ่งโดสก็ตาม ธีรวัฒน์กล่าวว่าในผู้ที่ได้รับวัคซีนซึ่งภูมิคุ้มกันไม่เพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นเหลือน้อยกว่า 68% การให้ยาครั้งที่สามอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้