นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด จะประเมินผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่อสตรีมีครรภ์ และทารกแรกเกิด ตลอดจนผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ การศึกษานี้เกิดขึ้นไม่ถึง 1 ปีหลังจากทางมหาวิทยาลัยพบว่า สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 และเด็กแรกเกิด ต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนดและความเสี่ยงของอวัยวะล้มเหลว มากกว่าที่เคยเป็นมา คณะผู้วิจัยกล่าวว่า การศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่ออุดช่องว่าง รวมทั้งผลกระทบของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่น Omicron ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง “ผลกระทบของโควิด-19 ในการตั้งครรภ์นั้นถูกประเมินต่ำเกินไปและมีการศึกษาไม่เพียงพอ” ศาสตราจารย์ José Villar จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นหัวหน้าร่วมของการศึกษากล่าว หน่วยงานด้านสุขภาพระดับโลกหลายแห่งกล่าวว่า การฉีดวัคซีนระหว่างตั้งครรภ์มีความปลอดภัย โดยผลการศึกษาของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนดหรือทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อย
ในเดือนพฤศจิกายน ข้อมูลจาก UK Health Security Agency แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีน COVID-19 ปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์ และไม่สัมพันธ์กับอัตราของภาวะแทรกซ้อนที่สูงขึ้น การศึกษาในอังกฤษที่กำลังจะมีขึ้นนี้ จะมีการลงทะเบียนจากสตรีประมาณ 1,500 คนที่มีผลตรวจเป็นบวก และเปรียบเทียบกับสตรีที่ไม่ติดเชื้อ 3,000 คนในช่วง 4 เดือน