สำนักข่าว CNN ได้รายงานว่า บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมายอมรับว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชนนั้น เป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้งหนึ่ง “มันชัดเจนเลยว่าวัคซีนเข็มที่ 3 นั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นในทุกด้าน” ในขณะที่ชาติฝั่งยุโรปประเทศอื่น ๆ ก็เริ่มมีมาตรการบังคับให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กันมากขึ้น ตัวอย่างเช่นฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ประกาศให้ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ภายใน 15 ธ.ค.นี้เพื่อต่ออายุบัตรผ่านวัคซีน ส่วนในทางฝั่งออสเตรเลีย สถานะฉีดวัคซีนจะหมดลงเมื่อผ่านไป 9 เดือน หลังจากที่ได้ฉีดเข็ม 2 และต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้น
ด้านดร.เดวิด นาบาร์โร ทูตพิเศษของ WHO ได้ระบุว่า “การที่เหล่าบรรดาประเทศมหาอำนาจนั้นเน้นต้องการพึ่งพาวัคซีนอย่างเดียวในช่วงการแพร่ระบาดถือเป็นเรื่องที่ต้องเดิมพัน เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และอาจจะเป็นยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องออกมาศึกษาเกี่ยวกับโควิด-19 การใช้วัคซีนเป็นอาวุธหลักที่อาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ใหม่ ๆ สิ่งที่จำเป็นก็คือใช้ผสมกับหน้ากากอนามัยกับมาตรการด้านสุขภาพอื่น ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับประชาชาติและเลี่ยงการติดเชื้อไวรัส”
