เจ้าหน้าที่กระทรวงได้พบกับคณะกรรมการนโยบาย EEC และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน (NERC) เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมด้านพลังงานใน EEC ผลักดันโครงการลงทุนปิโตรเลียมระยะที่ 4
นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการ NERC เปิดเผยว่า แม้ว่าโควิด-19 จะทำให้อุตสาหกรรมและการลงทุนของไทยชะลอตัวลง แต่สถิติการใช้ไฟฟ้าล่าสุดพบว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้ว ในภาคอุตสาหกรรม การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับเดียวกับก่อนการระบาดของโควิด-19 ยกเว้นภาคโรงแรมที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่า แผนการลงทุน EEC ของภาคเอกชนจะกลับสู่สภาวะปกติ และจำเป็นต้องเร่งวางแผนพลังงานเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตเขากล่าว ความต้องการใช้ไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 4,000 เมกะวัตต์ใน 10 ปีข้างหน้า เป้าหมายของ EEC ล้วนเป็นอุตสาหกรรมไฮเทค รวมถึงการชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องการไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ความมั่นคงและคุณภาพของพลังงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน
การตั้งโรงไฟฟ้าแห่งใหม่จะต้องใช้เวลาในการวางแผน ออกแบบ และก่อสร้างอย่างน้อย 5 ปี ในขณะที่การสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจะใช้เวลา 7-8 ปี ดังนั้นจึงต้องเร่งวางแผนและสรุปให้เสร็จภายในปี 2564 เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ทันเวลา แผนพลังงานของ EEC เสนอตลาดพลังงานหมุนเวียน โรงงานหลายแห่งอาจต้องการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลม แสงอาทิตย์ และน้ำเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วย