เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2566 สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการประชุมฉุกเฉิน เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 22.00%
ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในครั้งนี้ ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในการอนุมัติโครงการเงินกู้วงเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจปากีสถาน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2566 นี้
ด้านนายฟาฮัด ราอุฟ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์อิสมาอิล ได้ออกมาเปิดเผยว่าถึงแม้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนี้ จะทำให้ภาครัฐและเอกชน มีต้นทุนในการชำระหนี้มากขึ้น แต่ปัจจัยจากการได้รับเงินกู้จาก IMF จะช่วยให้มีน้ำหนักมากกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแบงก์ชาติของปากีสถาน ได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในประเทศ