ข้อมูลในรายงานระบุว่าการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีความสำคัญและกำลังถูกจับตามอย่างใกล้ชิด โดยผู้กำหนดนโยบายของ BOJ จะทำการคาดการณ์รายไตรมาส และอภิปรายว่าเศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใดในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
ในการคาดการณ์ในช่วงกลางปี รัฐบาลคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.3% ในปีงบประมาณปัจจุบัน (ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2567) ลดลงจาก 1.5% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคม เนื่องจากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว รัฐบาลคาดว่าการบริโภคจะแข็งแกร่ง และการใช้จ่ายด้านทุนจะหนุนการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 1.2% ในปีงบประมาณ 2567 และยังระบุว่า ราคาผู้บริโภคโดยรวมยังไม่ได้ตัดรายการใด ๆ ออกไป และมีแนวโน้มว่าจะแตะที่ระดับ 2.6% ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับ 1.7% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคม และสูงกว่าเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะแตะที่ระดับ 1.9% ในปีงบประมาณ 2567
นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวว่า "สิ่งสำคัญคือต้องทำให้มั่นใจได้ว่าญี่ปุ่นมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อออกจากภาวะเงินฝืด และเปลี่ยนไปสู่สังคมที่การปรับขึ้นค่าแรงเป็นเรื่องปกติ"
กรณีนี้ การปรับลดคาดการณ์หมายถึงการลดลงของคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่จะมีการประชุมนโยบายของ BOJ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจทางนโยบายเงินตราของธนาคารญี่ปุ่นในอนาคต การลดลงนี้อาจเกิดจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวของญี่ปุ่นหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศในอนาคต