ในวันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรประกาศเกี่ยวกับกรณีการจับกุมลักลอบนำเข้าทุเรียนจากชายแดนที่กรมศุลกากรได้ดำเนินการจับกุมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 นายระพีภัทร์จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรในจังหวัดศรีสะเกษติดตามข่าวการจับกุมทุเรียนและสืบหาข้อเท็จจริง และในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ พาณิชย์จังหวัด และผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุมคุณภาพทุเรียนและป้องกันการสวมสิทธิโดยเด็ดขาด
ในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ผอ.กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืชและผอ.สำนักนิติการได้รับหมายให้หาข้อสรุปและเตรียมดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และผอ.สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรได้รับหมายให้ลงพื้นที่ภาคใต้กับกรมการค้าภายในเพื่อตรวจโรงคัดบรรจุตามมาตรฐานเพื่อป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพปะปนไปในช่วงฤดูการส่งออก
ในวันที่ 29 มิถุนายน 2566 อธิบดีกรมวิชาการเกษตรมอบอำนาจให้หัวหน้าด่านตรวจพืชนครพนมไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีบริษัทผู้ส่งออกฐานแจ้งข้อความที่เป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ และในที่สุดอธิบดีกรมวิชาการเกษตรออกคำสั่งให้ระงับหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรและหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช (ล้ง, ใบ DOA) เพื่อป้องกันการใช้หรืออ้างอิงในทางที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศเป็นส่วนรวม
กรมวิชาการเกษตรได้สั่งให้ด่านตรวจพืชทุกด่านเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบใบรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) เพื่อป้องกันการสวมสิทธิและให้กรมวิชาการเกษตรยื่นคำขอตั้งงบประมาณโครงการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบปริมาณผลผลิตทุเรียนในปีงบประมาณ 2567 เพื่อเชื่อมโยงระบบออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (e-Phyto) ให้เกษตรกรสามารถบันทึกข้อมูลการขายผลผลิตและปริมาณผลผลิตทุเรียนได้ โดยเกษตรกรจะเป็นผู้ยืนยันข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าว
นอกจากนี้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรก็ขอให้เกษตรกรเก็บรักษาใบรับรอง GAP และหนังสือสำคัญการขึ้นทะเบียนโรงงานอย่างดี และเตือนให้หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตรอาจมีการระงับหรือเพิกถอนใบรับรองหรือหนังสือสำคัญที่เกี่ยวข้อง