ในงาน Meet The Press ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เสนอมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีปัจจุบัน โดยกล่าวถึงว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยคาดการณ์ว่าประเทศจะขยายตัว 2.9% ในครึ่งแรกและขยายตัว 4.2% ในครึ่งหลัง ซึ่งมาจากปัจจัยการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวดี โดยมีการซื้อประเภทสินค้าและบริการต่างๆ โดยประชาชนและมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยอะถึง 29 ล้านคนในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐพุฒิ กล่าวถึงความเป็นห่วงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ด้อยลง รวมถึงการส่งออกที่มีข่าวเลวกว่าคาดคิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้กับเศรษฐกิจไทย แต่ก็ยังไม่คาดคิดว่าจะมีผลกระทบรุนแรงมากนัก แม้ว่าการส่งออกในประเทศไทยในปีนี้อาจทรงตัวหรือไม่เติบโตเท่าไร
ในเรื่องของเงินเฟ้อ นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่ามีปัจจัยเฉพาะชั่วคราวที่ส่งผลกระทบให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราการเงินเฟ้อในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยคาดว่าอัตราการเงินเฟ้ออาจจะปรับลดลงมาในอนาคต แต่การมองว่าเงินเฟ้อจะต่ำสุดต่อเนื่องไปข้างหน้านั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐพุฒิ ย้ำว่าควรดูด้านเศรษฐกิจในระยะยาว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตตามศักยภาพ และเงินเฟ้อควรให้อยู่ในเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เป็นระดับ 1-3% ให้น้ำหนักในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินและควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
นอกจากนี้ นายเศรษฐพุฒิ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้ยังไม่คาดคิดว่าจะกระทบภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมากนัก ซึ่งเหตุผลอาจเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ยังคงดำเนินการได้ตามปกติ แม้จะต้องติดตามผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนใกล้ชิดต่อไป
ในที่สุด นายเศรษฐพุฒิ ยังสรุปว่าการดำเนินนโยบายการเงินควรให้เป็นแบบยืดหยุ่น สอดคล้องกับแนวโน้มและความเสี่ยงในระยะข้างหน้ามากกว่าจะพิจารณาจากข้อมูลที่เกิดขึ้นล่าสุด โดยต้องตัดสินใจโดยพิจารณาเนื้อหาใน outlook ที่เป็นอยู่ตอนนั้น ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนให้กับเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น และเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญอย่างยิ่ง และนอกจากนี้ยังต้องดูแลเรื่อง policy space เพื่อรองรับ shock ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย เพื่อรักษาสมดุลของเศรษฐกิจในระยะปานกลางและเสถียรภาพการคลัง
อัลบั้มภาพ
