โดยสมาคมธุรกิจบันเทิงป่าตองประมาณการว่า การขยายเวลาปิดบริการผับ บาร์ ต่าง ๆ จาก 02.00 - 04.00 น. สำหรับสถานบันเทิงยามค่ำคืนสามารถเพิ่มผลกำไรได้ถึง 100 ล้านบาทต่อเดือน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีอย่างป่าตอง ในสัปดาห์ที่แล้ว และได้ไปเยือนงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่เกาะพะงัน เมื่อเดือนที่แล้ว
ข้อเสนออย่างเป็นทางการนี้จะยื่นเรื่องในเดือนตุลาคม โดยประธานสมาคมอธิบายว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากยังไม่พร้อมที่จะกลับบ้านตอนตี 2 เนื่องจากระยะเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงเวลาพีคสูงสุด ดังนั้นการขยายเวลาปิดสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ค่อนข้างมาก นักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยใช้จ่ายในการเที่ยวคืนละ 3,000 - 4,000 บาท ปัจจุบันรายได้เฉลี่ยต่อวันที่ได้มาจากสถานบันเทิงในป่าตองอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาทต่อวัน และทั้งเดือนอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านบาท ถ้าอนุญาตให้เปิดถึงตี 4 ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในป่าตองเปิด 100% และส่วนใหญ่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และประเทศไทยควรเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ สำหรับนักเดินทางที่จะมาจากยุโรปและรัสเซียที่ต้องการปาร์ตี้ทั้งคืน