การเมืองไทยในปัจจุบันยังคงอยู่ในสภาวะที่ไม่แน่นอนและยังไม่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การเลือกตั้งทั่วประเทศเป็นไปแล้วระยะหนึ่งแต่ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องรัฐบาลที่แน่นอน ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศยังคงเป็นปัญหาตลอดเวลา ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องและสูงสุดที่ระดับ 35.05 บาท ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมากมาย การเมืองที่ไม่มั่นคงและขาดความหวังทำให้นโยบายทุกด้านของไทยรวมถึงนโยบายต่างประเทศชะงักไว้
ไม่เพียงแต่ประชาชนเท่านั้นที่ต้องการความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ภาคเอกชนยังต้องการความเร่งด่วนและความมั่นใจในการตั้งรัฐบาล เนื่องจากการล่าช้าอาจทำให้เสียหายมากขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่ล้มเหลวต่อเนื่องก็ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและความเชื่อมั่นและบรรยากาศในการลงทุน ภาครัฐก็อยู่ในสภาวะขัดข้องเนื่องจากยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินงาน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระดับประเทศ
เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงอีกมากมาย ความไม่แน่นอนในต่างประเทศส่งผลกระทบต่อการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนทุกด้าน การส่งออกของไทยยังคงติดลบ แม้ว่าคาดการณ์ปลายปีจะเป็นบวก ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคสำคัญคือการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าและระบบภาครัฐที่ขัดข้องเนื่องจากยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อภาคเอกชนโดยทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ภาคเอกชนลดการลงทุนและลังเลในการตัดสินใจ
อีกปัจจัยที่น่าสังเกตคือการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ซึ่งดูไม่ดีทั้งนี้เราเห็นการเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติที่พร้อมที่จะหนีหรือย้ายฐานการธุรกิจออกจากไทย ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากหากเราหวังว่าจะมีโอกาสในช่วงที่โลกสองขั้วเกิดความขัดแย้งในการค้าปะทุ นักลงทุนอาจพิจารณาย้ายฐานธุรกิจไปยังประเทศอื่น ซึ่งอาจเสียโอกาสสำคัญไป หากประเทศไทยยังไม่มีทิศทางการเมืองที่เสถียร อันดับความน่าลงทุนของไทยย่อมลดลงและไม่มีตัวตนบนเวทีโลก
ในสภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การลงทุนและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวถึงข้างต้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นปัญหา อุปสรรคทางภาครัฐและการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าทำให้ภาคเอกชนมีความลังเลในการลงทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศก็เผชิญกับความไม่แน่นอนและอาจทำให้นักลงทุนตัดสินใจย้ายฐานการธุรกิจไปยังประเทศอื่นที่มีความเสถียรภาพมากกว่า สถานการณ์เหล่านี้ทำให้สภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาวยังคงเป็นปัญหาและต้องรอดูแนวทางแก้ไขจากการเมืองในอนาคต