นโยบายการคลังและการเงินของไทยยังคงดำเนินงานร่วมกันเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตถึง 4% ในปีนี้ และรับประกันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งขยายตัว 1.6% ในปีที่แล้ว หลังจากการหดตัว 6.2% ในปี 2020 จะฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2024 การประสานงานระหว่างนโยบายการเงินและการคลังจะดำเนินต่อไปจนกว่า จะมั่นใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ โดยการเพิ่มขึ้นของวิกฤตที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียและยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ไม่เพียงแต่ในด้านการค้าแต่ยังรวมถึงการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาจากรัสเซีย ในเดือนมกราคม นักท่องเที่ยวประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวเกือบ 134,000 คนในประเทศไทยเป็นชาวรัสเซีย และในปีก่อนเกิดโรคระบาด รัสเซียใช้จ่ายไป 102 พันล้านบาท (3.14 พันล้านดอลลาร์) ในประเทศ ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ธนาคารกลางของประเทศไทยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่มีการปรับลด 3 ครั้งในปี 2020 เพื่อรองรับเศรษฐกิจ ขณะที่รัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ โดยมีแผนกู้ยืม 1.5 ล้านล้านบาทนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด รัฐบาลจะกู้เงินในประเทศเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและจะกู้ยืมเงินจากญี่ปุ่นประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 และหากจำเป็นจะต้องพิจารณาเงินกู้ต่างประเทศเพิ่มเติมในภายหลัง