คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.50% เมื่อวานนี้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง ภายใต้การปรับนโยบายให้เป็นปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นชั่วขณะตามความเหมาะสม กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของไทย คณะกรรมการจะพิจารณาอัตราสุดท้ายในการประชุมในอนาคตด้วย
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 กนง. ลงมติ 6 ต่อ 1 ให้เพิ่มอัตรา 0.25% เป็น 0.75% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงาน ต่อมาคณะกรรมการได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมแต่ละครั้งในเดือนกันยายน พฤศจิกายน และครั้งล่าสุด เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง กนง. ระบุว่า เชื่อว่าการปรับนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปมีความเหมาะสมกับนโยบายการเงินซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ
เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภาคการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวเร็วขึ้นตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน สิ่งนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงการจ้างงานและรายได้ของผู้ประกอบอาชีพอิสระและผู้ที่อยู่ในภาคบริการในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งที่สำคัญของตลาดแรงงาน
การขยายตัวของการส่งออกสินค้าคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลางในปีนี้ และกลับมาดำเนินการอีกครั้งในปี 2567 ควบคู่ไปกับการเติบโตทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะถึงจุดต่ำสุดในปี 2566