วันที่ 20 กรกฎาคม 2566, ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 1 จุด (+0.09%) ปิดที่ระดับ 1,537 จุด โดยแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมินว่า SET แกว่งตัวอยู่ในช่วง 1,530 - 1,545 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากฟันด์โฟลว์ต่างชาติตามคาดการณ์ FED ที่ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อชะลอตัวลง และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดผันผวน คือ:
1. การเมืองยังคงไม่คงที่ การสภาลงมติเสนอชื่อเพื่อเลือกนายกฯ รอบที่ 2 ไม่ได้ โดยวันนี้ที่ประชุมสภา มีมติ 394 เสียง ต่อ 312 เสียง ทำให้การเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อโหวตเลือกเป็นนายกครั้งที่ 2 ไม่สำเร็จ เนื่องจากขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ส่งผลให้การเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลค้างอยู่ ซึ่งสภาวะนี้อาจมีผลลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ประธานสภากำหนดประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ใหม่ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566
2. อังกฤษประกาศอัตราเงินเฟ้อลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดคะเน โดยประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายนลดลงสู่ระดับ 7.9% จาก 8.7% ในเดือนพฤษภาคม และลดลงมากกว่าที่มีความคาดคะเนที่ 8.2% ซึ่งส่งผลให้มีแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อที่ย่อยลงต่อเนื่อง
3. ในวันนี้จีนจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเพื่อประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อลูกค้าชั้นดี (LPR) 1 ปี และ 5 ปี เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จีนใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย LPR 1 ปี และ 5 ปี อยู่ที่ระดับ 3.55% และ 4.2% ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือ "Selective Buy" คือการแนะนำให้ลงทุนเฉพาะหุ้นบริษัท CPAXT และ CBG ในวันนี้ โดยมีเหตุผลดังนี้:
1. CPAXT: ราคาหุ้นอยู่ในโซนล่างและคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะได้รับกำไรในระยะยาว เนื่องจากผลประกอบการอยู่ในโหมดของการฟื้นตัว
2. CBG: ราคาอะลูมิเนียมและน้ำตาลลดลง ทำให้มี Sentiment บวก และรายงานกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 59% จากยอดขายที่ฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ และมาร์จิ้นดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นควรทำความเข้าใจและทำการวิเคราะห์ให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
อัลบั้มภาพ
