มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยซึ่งเป็นผู้วัดดัชนีกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจลดลงร้อยละ 2 หากการแพร่ระบาดของโรคไม่อยู่ภายใต้การควบคุม
ดัชนีปรับตัวลดลงหลังจากความเชื่อมั่นเชิงบวกในช่วง 3 เดือนแรกของปี นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าว เขากล่าวต่อว่าปัจจัยลบหลักมาจากรัฐบาลจำกัดโอกายสในช่วงเทศกาลสงกรานต์และความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 การระบาดระลอกล่าสุดไม่ได้ถูกนำมารวมไว้ในตัวเลขดัชนีใหม่นี้ “คลัสเตอร์ใหม่จากสถานที่จัดงานในกรุงเทพฯ มีแนวโน้มที่จะลดการใช้จ่ายของประชาชนประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1-2 พันล้านบาทต่อวัน” เขาคาดการณ์ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในประเทศระหว่าง 30 ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อเดือน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวว่า หากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ภายใน 2 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์เลวร้ายลงและยังไม่คลี่คลายใน 2 เดือน นายธนวัฒน์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียงร้อยละ 2 ลดลงจากประมาณการในปัจจุบันที่ร้อยละ 2.8