ภายใต้ข้อเสนอนี้ ชาวต่างชาติที่ร่ำรวยสามารถยื่นขอวีซ่าพิเศษที่อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้นานถึง 10 ปี ชาวต่างชาติที่มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินและที่ดินในประเทศไทยได้ ในขณะที่จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% สำหรับรายได้ที่ได้รับในประเทศไทย
ข้อเสนอดังกล่าวถูกส่งไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจในที่ประชุม ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวนิรนามได้บอกกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่ากระทรวงการคลังกำลังต่อต้านการลดหย่อนภาษีที่เสนอ ได้ขอให้มีการปรึกษาหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพิ่มเติม และขอให้ส่งข้อเสนอใหม่อีกครั้ง ตามรายงานบางกอกโพสต์ วีซ่าพำนักระยะยาวจะมุ่งเป้าไปที่ชาวต่างชาติที่ร่ำรวย ซึ่งจะต้องลงทุนอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์ในพันธบัตรรัฐบาลหรืออสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานแสดงรายได้อย่างน้อย 80,000 ดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และจะต้องมีทรัพย์สินมูลค่าอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์ และประกันสุขภาพ 100,000 ดอลลาร์
ชาวต่างชาติที่ต้องการใช้วีซ่าเพื่อการเกษียณอายุจะต้องมีอายุอย่างน้อย 50 ปี โดยมีรายได้ 40,000 ดอลลาร์ต่อปี และประกันสุขภาพ 100,000 ดอลลาร์ พวกเขาจะต้องลงทุน 250,000 ดอลลาร์ในพันธบัตรรัฐบาลหรือทรัพย์สิน พวกเขาจะได้รับวีซ่า 10 ปี ซึ่งจะอนุญาตให้พวกเขาซื้ออสังหาริมทรัพย์และที่ดินได้ สามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และจ่ายภาษี 17% สำหรับรายได้ของพวกเขา
ในกรณีของคนเร่ร่อนทางดิจิทัลหรือพนักงานขององค์กรขนาดใหญ่ที่ใกล้เกษียณอายุจะต้องมีรายได้ต่อปี 40,000 ดอลลาร์ และประกันสุขภาพ 100,000 ดอลลาร์
