ขณะนี้ตลาดโลกกำลังตื่นกลัวว่าภาคส่วนใดในระบบเศรษฐกิจจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปของอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วสุดในรอบหลายทศวรรษ โดยเฉพาะหลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของเศรษฐกิจพัฒนาแล้วหลายประเทศ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้ออกมาเตือนว่า วัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ยังไม่จบ! สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ก่อนหน้านี้ได้เตือนว่าธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ อาจต้องใช้เวลานานขึ้นในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อและความวุ่นวายทางการเงินครั้งใหม่
แม้ภาคธนาคารจะเริ่มกลับมามีเสถียรภาพแล้วหลังผ่านเหตุการล่มสลายของธนาคารภูมิภาคในสหรัฐฯ และ Credit Suisse เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในภาคส่วนอื่น ๆ ยังคงมีสัญญาณไฟกะพริบเตือน โดยเฉพาะหลังจากเหตุความไม่สงบรัสเซียกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดอีกครั้ง
นี่คือ 5 ความเสี่ยงเศรษฐกิจสำคัญที่กดดันธนาคารกลาง:
1. ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (Residential Property): ตลาดที่อยู่อาศัยในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และยุโรป กำลังเผชิญกับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอาจทำให้เจ้าของบ้านจำนวนมากพบกับภาระผ่อนชำระเพิ่มขึ้นในอนาคต
2. ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Real Estate): ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์กำลังต่อสู้กับต้นทุนการรีไฟแนนซ์ที่สูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคตเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดนี้
3. สินทรัพย์ธนาคาร (Bank Assets): ธนาคารหลายแห่งยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการคุมเข้มการออกสินเชื่อ เพื่อรองรับสภาวะทางการเงินที่ตึงตัว ธนาคารอาจต้องแก้ไขช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นในสินทรัพย์ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
4. การผิดนัดชำระ (Default): อัตราการผิดนัดชำระสำหรับบริษัทระดับ Sub-Investment Grade อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อบริษัทที่มีระดับหนี้สูงอยู่แล้ว
5. รัสเซียหลังการก่อความวุ่นวายของกลุ่มวากเนอร์: การก่อเหตุของกลุ่มวากเนอร์ที่สั่นคลอนการปกครองของรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และอาจส่งผลกระทบต่อหลายประเทศและองค์กรธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่มีลักษณะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ การติดตามแนวโน้มและการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในช่วงเวลาเช่นนี้