ในปี 1989 ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นแตก ทำให้เกิดภาวะตกต่ำซบเซา (stagnation) และภาวะเงินฝืด (deflation downward spiral) ในเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็นเวลานาน ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นกรณีศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า "2 ทศวรรษที่หายไป" ในเศรษฐกิจญี่ปุ่น

 

ในปัจจุบัน รัฐบาลปักกิ่งกำลังนำพาเศรษฐกิจของจีนเดินซ้ำรอยญี่ปุ่นในช่วงกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และมีความเสี่ยงที่จีนอาจหลุดเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจซบเซาและภาวะเงินฝืดได้ เช่นเดียวกับญี่ปุ่นในอดีต สถานการณ์เศรษฐกิจของจีนในเวลานี้ไม่ดี เนื่องจากดัชนีชี้สภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสแรกไม่ดี มีการลงทุนลดลงและคาดว่าไตรมาสที่สองของปีนี้เศรษฐกิจจีนอาจไม่ขยายตัวหรือเติบโต

 

เหตุผลหลายประการที่ส่งผลให้การฟื้นตัวของจีนไม่เป็นไปตามคาดหวัง เช่น การขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกาที่นำไปสู่การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้การลงทุนต่างประเทศหดหายและเกิดปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีปัญหาภาคการศึกษาที่มีผลกระทบต่อธุรกิจและจำนวนงานที่ลดลง

 

ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในจีนกำลังก่อให้เกิดปัญหาในเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อหลายด้าน รวมถึงการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง การบริโภคที่ต่ำและการลงทุนทางธุรกิจที่ใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ในจีน นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อจิตวิทยาการบริโภคของประชาชนที่เป็นเจ้าของอสังหาฯ และการลดลงของกิจการภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ

 

นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ชี้ว่าสถานการณ์ในจีนในปัจจุบันคล้ายกับสถานการณ์ของญี่ปุ่นในช่วงปี 1980 และสิ่งที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่นในอดีตอาจกำลังจะเกิดขึ้นกับจีนในปัจจุบัน การตอบสนองของรัฐบาลญี่ปุ่นต่อปัญหาช้าเกินไปในอดีตเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบให้ญี่ปุ่นตกต่ำซบเซาเป็นเวลานานถึง 2 ทศวรรษ แบงก์ชาติใช้เวลานานถึง 10 ปีเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยลง และมาตรการกระตุ้นที่ใช้ก็ผิดจุด เนื่องจากไปกระตุ้นการลงทุนแทนการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศโดยตรง

เข้าชม 22 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

แท็กที่เกี่ยวข้อง

จีนภาวะเงินฝืดญี่ปุ่น

เศรษฐกิจอื่นๆ