วันที่ 11 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง พร้อมกับทีมงานชุดจับกุม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังจากที่บุกทลายโกดัง ที่ซุกซ่อนอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า และถือได้ว่าเป็นโกดังรายใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าทางจับกุมได้ 2 พื้นที่ นั่นคือจังหวัดนครปฐม และเขตกรุงเทพฯ
ซึ่งโกดังทั้ง 2 แห่งนี้จะเป็นศูนย์กระจายสินค้า เพื่อส่งให้ลูกค้ารายย่อยตามต่างจังหวัดต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดของกลางได้มากถึง 80 ล้านบาท และอยู่ในช่วงของการตรวจสอบหามูลค่าพร้อมกับเร่งหาตัวนายทุนต่อไป เพราะที่จับได้เป็นเพียงแค่คนเฝ้าโกดัง 3 ราย
ในวันที่แถลงการณ์จับกุม พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง ยังฝากเตือนถึงกลุ่มที่ชอบดูดบุหรี่ไฟฟ้าอีกว่า สำหรับบุหรี่ไฟฟ้ายังคงผิด พรบ.ศุลกากร นำเข้าสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พรบ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้าในราชอาณาจักร ถ้าหากว่าถูกจับหรือว่าฝ่าฝืนยังมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือว่าปรับเป็นเงินเท่ากับสิ่งของที่เป็นมูลค่าที่ถือครอบครอง จึงอยากฝากเตือนให้กับประชาชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าว่ายังผิดกฎหมาย และยังทำลายสุขภาพ พร้อมกับฝากเตือนประชาชนว่าไม่มีข้อละเว้น สำหรับการดำเนินคดีเมื่อถูกจับบุหรี่ไฟฟ้า