โดยเมื่อวานนี้ (15 กันยายนที่ผ่านมา) มีการแถลงจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดภาคเหนือตอนล่าง นำโดย พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก อรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ,พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ,พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ,นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายวิชัย ไขยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้แถลงผลการปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้น ตามแผน สยบไพรี 46/18 ซึ่งพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างถือเป็นจุดพักคอยยาเสพติด และลำเลียงกระจายให้กับกลุ่มผู้จำหน่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศและต่างประเทศ
จากสถิติกวาดล้างตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้จำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 จับกุมนายนิพล บุญขวาง พร้อมยาบ้า 1,000 เม็ด ยาไอซ์ 46 กิโลกรัม / วันที่ 14 มีนาคมสามารถยึดยาบ้าได้ 2 ล้านเม็ด /วันที่ 4 เมษายน 2564 จับกุมนาย สุรเสกซ์ แช่เฮอและพวกอีก 4 คน พร้อมยาไอซ์ 100 กิโลกรัม เคตามีน เฮโรอีน 314 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในถังสีเตรียมส่งออกต่างประเทศ และยังขยายผลจับกุมเครือข่ายจำนวนมาก จนนำมาสู่แผนการปฏิบัติการสยบไฟรี 64/18 “ปิดฉากนักค้าภาคเหนือตอนล่าง” ครั้งนี้
อีกทั้งยังมีการบุกจับและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดตามหมายที่เกี่ยวข้องกัน 78 ราย รวม 125 จุด โดยเป็นหมายกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 17 ราย ,หมายตำรวจภาคหก 61 ราย ยึดทรัพย์สินได้62,000 บาท เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 25 ล้านบาท รถยนต์ 11 คัน มูลค่า 20 ล้านบาท และสามารถตามยึดรถแทรกเตอร์ 1 คัน มูลค่า 1 ล้านบาทรถจักรยานยนต์ 11 คัน มูลค่า 3 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง มูลค่า 549,000 บาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร 8 รายการ มูลค่า 90,000บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 40 ล้านบาท ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ฝากประชาชนว่า สามารถแจ้งแบะแสขบวนการผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหมายเลข 1599 และศูนย์ 191 ได้
