โดย ผู้ต้องหา คือนางสาว สุนันทา อายุ 29 ปี พนักงานฝ่ายทะเบียนราษฎร อำเภอเมืองชลบุรี ได้ให้การรับสารภาพว่าทำมาประมาณ 2 ปีแล้ว เพราะโลภ ส่วนเงินที่ยักยอกไป ก็นำไปใช้จ่ายรายวัน ขณะที่ผู้เสียหาย แจ้งว่า คาดว่าน่าจะหายไปเกือบ 10 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ต่างกรรม ต่างวาระ ทันที
หลังจากนั้น ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลจังหวัดชลบุรี แต่เนื่องจาก ทางผู้ต้องหาได้ทำการอุทธรณ์ ไปถึงชั้นฎีกา ไว้ โดยอ้างว่ามีภาระต้องดูแลบิดามารดาที่ชราและต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ยังไม่ได้เรียนหนังสือหรือมีเหตุอื่นตามที่อ้าง ในฎีกาก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค ๒ ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุกนั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว จึงได้ตัดสินจำคุกผู้ต้องหา รวมจำนวน 12 ปี
ขณะที่ ด้านนางตวงทิพย์ ภาวสุทธิ์ชัยกิจ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง เผยถึงความรู้สึกว่า ที่ผ่านมาระหว่างคดีอยู่ในการพิจารณาที่ศาล ตนรู้สึกว่าช้ามาก จนมาถึงวันนี้ตนรู้สึกดีใจที่สุด ที่สามารถเอาคนผิดที่ไม่รู้จักบุญคุณคนที่ดีด้วย ให้รับโทษตามกฎหมาย และตลอดเวลาผู้ก่อเหตุไม่สำนึกผิด เพราะหากรู้สึกผิดคงไม่สู้คดีจนถึงชั้นศาลฎีกาแน่นอน