เยาวชนอายุ 17 ปี เผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความประมาท ที่ทำให้มีผู้เดือดร้อนหลายคน  รวมทั้งแม่ของตัวเอง ก็ต้องได้รับโทษด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวไม่ต้องการให้เกิดขึ้น และหากย้อนเวลาได้ อยากเป็น อยากตายแทนผู้เสียชีวิต เนื่องจากอุบัติเหตุครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากความดื้อรั้น และความคึกคะนอง ที่รู้ว่าไม่สามารถขับรถได้ เนื่องจาก ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ อีกทั้งที่ผ่านมา แม่ก็ไม่อนุญาตให้ขับขี่รถยนต์เด็ดขาด จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองได้ใช้จังหวะที่คุณลุงขับรถมาไว้ที่บ้านของคุณแม่ และไม่ได้นำรถกลับบ้าน จึงตัดสินใจขับรถคันดังกล่าวไปรับเพื่อนเพื่อไปบางแสน จังหวัดชลบุรี ยอมรับว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ ส่วนตัวมองไม่เห็นคู่กรณี และไม่ได้เหยียบเบรก แต่เหยียบคันเร่งแทน เนื่องจากขณะนั้นอยู่ในอารมณ์ตกใจ จนกระทั่งรถเกิดเฉี่ยวชน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ยืนยัน ไม่เห็นผู้บาดเจ็บ ทำให้เกิดอาการตกใจ และคุมสติไม่ได้ จึงโทรบอกลุง ก่อนที่จะทราบว่ามีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เยาวชนรายนี้ยังบอกว่า หลังเกิดเหตุได้เดินทางไปร่วมงานศพ รวมถึงขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

ด้านมารดาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หากย้อนเวลาได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ ยอมรับเสียใจกับเรื่องราวทั้งหมด ยืนยันที่ผ่านมาได้นัดเจรจากับครอบครัวผู้เสียหาย เบื้องต้น ครอบครัวผู้เสียหายเรียกร้อง เงินจำนวน 5 ล้านบาท แต่ตัวเองตัดสินใจขอกลับไปทบทวน และจะกลับมาเจรจาในวันที่ 5 มกราคม  แต่ก็ไม่สามารถสรุปเรื่องตัวเลขได้ เนื่องจาก ได้มอบหมายให้ทนายความ ไปเจรจาเพียงลำพัง หลังตัวเองต้องกักตัว เนื่องจาก มีภาวะเสี่ยงการติดเชื้อโควิด 19 ไม่สามารถไปเจรจาได้ ซึ่งการเจรจาครั้งนั้น ก็ไม่ได้ข้อยุติ โดยส่วนตัวได้ชี้แจง ตัวเลขเบื้องต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 1 ล้าน 7 แสนบาท ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 2 แสนบาท / เงิน พ.ร.บ. 5 แสนบาท และเงินประกันภัย 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ข้อยุติ ยืนยัน ยินดีจะนัดเจรจา และจะรับผิดชอบเต็มที่ แต่จะเป็นตัวเลขจำนวนเท่าใดไม่ขอเปิดเผย ขึ้นอยู่กับความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย หรือหากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะให้ศาลนัดไกล่เกลี่ย เพราะการไกล่เกลี่ย แต่ละครั้ง จะมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ส่วนเรื่องรถยนต์ทราบดีว่าผู้ก่อเหตุไม่มีสิทธิ์ขับรถ ความผิดส่วนนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล เพราะในอดีตไม่อนุญาตให้ผู้ก่อเหตุขับรถ และไม่เคยเห็นผู้ก่อเหตุขับรถ อีกทั้งวันเกิดเหตุก็ไม่พบแฮลกอฮอล์ในร่างกายผู้ขับขี่ แต่ยอมรับเรื่องไม่มีใบขับขี่เป็นความจริง

เข้าชม 12 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ขับรถชนเสียชีวิตอุบัติเหตุ

สังคมอื่นๆ