กรณีตำรวจขโมยปืนหลวง ล่าสุด รองผบ.ตร เผยต่อสื่อมวลชนว่า มีได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาหมั่นตรวจสอบการเก็บรักษา และการเบิกจ่ายอาวุธปืนให้เป็นไปตามระเบียบโดยเคร่งครัดแล้ว โดยเฉพาะหัวหน้าสถานีตำรวจต้องหมั่นตรวจสอบเป็นประจำตามวงรอบที่กำหนด และขอให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นมา ออกสุ่มตรวจว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบที่ถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานใช้สิทธิ์ในใบอนุญาตซื้ออาวุธปืน หรือ ใบ ป.3 ไปซื้ออาวุธปืนขนาดต่าง ๆ แล้ว เพื่อนำไปขายในตลาดมืด โดยไม่ไปขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน หรือ ใบ ป.4 ตามขั้นตอน โดยบางรายนำใบ ป.3 ไปเวียนซื้อปืนมากถึง 5 กระบอก ก่อนนำไปขายในตลาดออนไลน์ และบางส่วนขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีราคาแพง กระบอกละประมาณ 50,000 บาท จึงได้สั่งให้ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี และจะระงับโครงการปืนสวัสดิการตำรวจ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด พร้อมวางระบบป้องกัน ด้วยการติด "สติกเกอร์โค้ด" ที่บริเวณโคมปืน ที่ ซึ่งจะแสดงข้อมูลเบื้องต้นของปืนกระบอกดังกล่าว เช่น เลขทะเบียนปืน วันเดือนปีที่ผลิต ข้อมูลการเข้าประจำคลังของปืน หรือการเบิกจ่ายปืนไปใช้ ซึ่งจะช่วยป้องกันปืนหายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย ซึ่ง เป็นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกา