พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. ชี้แจงกรณีตรวจค้นที่เกิดเหตุฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย ณ ลานอเนกประสงค์ ว่า ผลจากการเข้าปิดล้อมตรวจค้น พบสิ่งต้องสงสัย ดังนี้ อาวุธมีด 44 เล่ม กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจเขม่าดินปืนที่มือและเก็บตัวอย่าง DNA และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 17 ปลอก และปลอกกระสุนขนาด .32 จำนวน 3 ปลอก

ทั้งนี้ มีรายงานว่าคลิปดังกล่าวถูกโพสต์เป็นคลิปแรกลงในเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ "คนข่าวอาชีวะ" โพสต์เมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ ความยาวคลิปประมาณ 10 วินาที พร้อมข้อความทำนองว่า เป็นคลิปนักศึกษาแห่งหนึ่งย่านพญาไท กระหน่ำยิงปืนขึ้นฟ้ากลางวันแสก ๆ หลายนัด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นวันสถาปนาของมหาวิทยาลัยดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากและแชร์เรื่องนี้ออกไปเกือบ 5 พันครั้งในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง หลังปรากฏคลิปดังกล่าว พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปตรวจสอบภายในมหาวิทยาลัยต้องสงสัยทันที เบื้องต้นพบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวนมาก จึงประสานให้พนักงานสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อนำหลักฐานที่พบกลับไปตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ที่เป็นวันสถาปนาของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ทาง สน.ปทุมวัน ได้นำกำลังไปป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายตลอดทั้งวัน ซึ่งเหตุการณ์ก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย จนถึง 6 โมงเช้า จึงเก็บอุปกรณ์ต่างๆ กลับ สน. จึงคาดว่าผู้ที่ก่อเหตุจะลักลอบเข้าไปในมหาวิทยาลัยในช่วงประมาณ 6 โมงเช้า ถึง 10 โมงเช้า เพื่อไปรวมตัวทำกิจกรรมดังกล่าว หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดมกำลังตำรวจเข้าไปตรวจค้นภายในสถานศึกษา เบื้องต้นพบแต่ปลอกกระสุนปืนแต่ยังไม่พบอาวุธปืน และอาวุธชนิดอื่น ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพวงจรปิดว่าคนที่ยิงปืนมีใครบ้าง เพื่อขยายผลถึงอาวุธปืนว่าถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้ทางคณาจารย์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยบอกว่าไม่ทราบว่ามีการรวมตัวก่อเหตุดังกล่าวขึ้นมาก่อน ยังอยู่ระหว่างปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งยืนยันว่าสถาบันแห่งนี้ไม่เคยมีประเพณีที่ปฏิบัติในลักษณะดังกล่าว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำ เพราะอาจทำอันตรายกับประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ เพราะเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมืองและมีสถานศึกษา อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้มีการเชิญพยานอย่างน้อย 2 คน ไปสอบปากคำแล้ว

เข้าชม 15 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ