เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัด สุรินทร์ บุกรวบครูโรงเรียนดังในเมือง พานักเรียนหญิงชั้น ม.3 เข้าม่านรูด หลังพลเมืองดีรู้ว่ามีพฤติกรรม ชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง เตรียมขยายผลเชื่อเคยกระทำกับลูกศิษย์มาแล้วหลายคนเป็นอาจารย์สอนวิชาสังคมศึกษา ที่ หลังการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า ได้ติดตามข้อมูลบุคคลรายนี้มาโดยตลอดคือ สายลับพยายามเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด ต่อมาตามวัน เวลาเกิดเหตุ ได้พบเห็นชายคนดังกล่าว ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน ทะเบียน สุรินทร์ มาจอดรับนักเรียนบริเวณโรงเรียนดังกล่าว และขับออกไป พบว่ารถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปจอดภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง จึงโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน มาตรวจสอบโดยตำรวจชุดจับกุมพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ผู้ถูกจับกุม พาหญิงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 17 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี มาจากการปกครองดูแลของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล พามาในที่โรงแรมม่านรูด ประสงค์มุ่งหวังเพื่อการอนาจาร
จากการสอบถาม นางสาวสา (นามสมมติ) บอกว่า ตัวเองนั้นมีผลการสอบ ติด "ร." จึงขอสอบแก้วิชาที่ "ติด ร." คือ วิชาสังคมศึกษา ก็ได้มาที่โรงเรียนเพื่อพบครูคนดังกล่าว ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาสังคมศึกษา
จากนั้นครูได้ชวนตนออกมาข้างนอกมานั่งทานข้าวและเหล้าเบียร์ได้สักพัก ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวออกมาแล้วได้เลี้ยวเข้าไปที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าว พร้อมกับชักชวนตนเข้าไปนั่งคุยกันก่อน พอตนเข้าไปในห้องพัก ครูได้พูดกับตนว่าต้องการเงินเท่าไร 500 หรือ 2,000 บาท ตนก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่บอกว่าทำไมอาจารย์ทำแบบนี้ จากนั้นนายสมิงก็ได้เข้ามาลูบคลำขาอ่อน และจับหน้าอกตน ซึ่งตนนั้นได้ปัดออก ช่วงเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะห้อง จึงรอดพ้นจากครูหื่นคนนี้
โดย ความคืบหน้าล่าสุด ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่และประชุมเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
โดย รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตการศึกษามัธยมศึกษา 33 สุรินทร์ นายทศพร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ช่วยเลขานุการ ศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ และ นักพัฒนาการเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว ร่วมประชุม ซึ่ง หลังประชุม นักพัฒนาการเด็ก กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ของพัฒนาสังคม ก็มีเจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่มาติดตามและประชุมโดยสหวิชาชีพ ในส่วนเจ้าหน้าที่เองก็จะลงไปสอบเด็ก ซึ่งเป็นคดีแล้วและจะต้องไปสอบที่ สนง.อัยการ จ.สุรินทร์ จะมีพนักงานสอบสวน ผู้เสียหาย และมารดาของเด็กด้วย
