ผู้เสียหายรายนี้คือ นางเกษยา เจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และ นางสาวอาทิตยา ทั้งสองคน ให้การว่า เมื่อปี 2562 ถูก นส.กุ๊กไก่ (นามสมุติ) ชวนร่วมลงทุนหุ้นต่างประเทศ โดยบอกว่าจะได้ผลตอบแทน 200 เปอร์เซ็นต์ จากเงินที่ลงทุนในระยะเวลา 6 เดือน ตนเองได้รวบรวมโฉนดที่ดินและสมุดบัญชีธนาคารทุกธนาคารมอบให้ผู้ต้องหาไป เพราะนางสาวกุ๊กไก่ อ้างว่าจะต้องใช้หลักฐานเหล่านี้ดำเนินการเรื่องเสียภาษี ซึ่งตนได้เริ่มโอนเงินลงทุน ครั้งแรกเดือนตุลาคม 2562 รวม 5 ล้านบาท ก่อนจะทยอยโอนให้เรื่อย ๆ รวม 17 ครั้ง รวมเป็นเงิน 206 ล้านบาท และนางสาวกุ๊กไก่ ก็บอกว่า จะโอนเงินผลกำไรจากการลงทุนครั้งแรกตั้งแต่ปี 2562 แต่ก็เงียบหายไป และตนเองก็ไม่ได้เงินกลับมา แม้แต่บาทเดียว เมื่อสอบถามไปก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด เมื่อแน่ใจว่าถูกหลอก จึงรวบรวมหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดี เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ในคดีฉ้อโกง กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เมษายน ตนได้เดินทางไปหานางสาวกุ๊กไก่ที่บ้าน เพื่อขอเอกสารคืน แต่ผู้ต้องหาบอกว่าไม่ได้เก็บเอกสารไว้ที่บ้าน ก่อนที่วันที่ 24 เมษายน 2565 จะได้รับเงินโอนจากผู้ต้องหามา 5 ล้านบาท หลังจากนั้นก็หายไป
ทั้งนี้ ผู้เสียหายให้การว่า รู้จักผู้ต้องหามานานตั้งแต่เด็ก และเห็นว่าในเฟซบุ๊ค ผู้ต้องหาสร้างภาพโปรไฟล์หรูหราบนโลกโซเชียล ใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง ใช้ไม้กอล์ฟราคาหลักแสนบาท และสนับสนุนเงินการประกวดนางงามเวทีใหญ่ ทำให้ตนเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานและต้องทำสำนวนให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ซึ่งในคดีนี้เป็นลักษณะของการหลอกลวง ฉ้อโกง และคดีปลอมแปลงเอกสารทางราชการ
