เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ตำแหน่งรองอธิบดีกรมชลประทาน แถลงข่าวสถานการณ์น้ำว่า ทางกรมชลประทานได้มีการสำรวจปริมาณน้ำในแหล่งเก็บน้ำ 447 แห่ง นับเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 412 แห่ง และขนาดใหญ่ 35 แห่ง แล้วนำมาเทียบกับปริมาณน้ำเมื่อปีที่แล้วพบว่ามีน้ำมากขึ้นถึงร้อยละ 7 หรือประมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมดโดยประมาณ 37,176 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ยังคงรองรับปริมาณน้ำได้อีกร้อยละ 51 ของพื้นที่เก็บน้ำทั้งหมด
ส่วนทางลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำที่รองรับอยู่ที่ 8,048 ล้านลูกบาศก์เมตร และสามารถนำน้ำมาใช้งานได้ถึง 1,352 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้ำมากกว่าปีก่อนถึงเท่าตัว ทำให้หลังจากผ่านฤดูฝนไปแล้วจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน สำหรับฤดูฝนที่กำลังเผชิญอยู่นี้จะยังคงรองรับการกักเก็บน้ำได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดีการระบายน้ำของเขื่อนจิ่งหงของประเทศจีนนั้นได้ขอปรับลดการระบายน้ำออกไปถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคม ทางกรมชลประทานคาดว่าไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยมากนัก แต่ยังมีการเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศไทยด้วยเช่นกันว่าจะมีพายุฝนจำนวนมากในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้ โดยจะพัดผ่านริมแม่น้ำโขงจาก สปป.ลาว ก่อนที่จะถึงไทย ทำให้ยังคงต้องระวังเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากจากพายุฝนต่อไป