เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ตำบลวังน้ำซับ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็น บ้านชั้นเดียวยกพื้น พบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงมีชาวบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังช่วยกันขนย้ายข้าวของออกจากกองเพลิงกันอย่างชุลมุนโกลาหล เจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำสกัดเพื่อควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลามใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบ้านถูกไฟไหม้หมดทั้งหลังเหลือเพียงเพิงหน้าบ้าน รถไถนาแบบเดินตาม อุปกรณ์ตีนา ทรัพย์สิน ในบ้าน และ ใต้ถุนบ้านรวมทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไก่ชน กว่า 10 ตัว และลูกไก่ชน อีกรวมแล้วประมาณ 100 ตัว ที่อยู่ในเล้าใต้ถุน บ้านถูกไฟไหม้ตายหมดสภาพดำเกรียม โดยนาง เฉลา พันธุ์เรือง อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านนั่งเป็นลมอยู่ใต้ต้นไม้ มีเพื่อนบ้าน ช่วยกัน ปฐมพยาบาล หายาดมมาให้ดม และนายฉลอง พันธุ์เรือง อายุ 65 ปี สามี มีแผลพุพองที่แขนขวาจากการถูกเปลวไฟลวก บาดเจ็บ เล็กน้อย และในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดับเพลิงอยู่นั้น มีนายธนพล พันธ์ุเรือง อายุ18 ปี หลานชายเจ้าของ บ้านและเป็น เจ้าของไก่ชน ที่ถูกไฟไหม้ร้องไห้โวยวายด้วยความเสียใจ ที่ไก่ชนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ราคาตัวละเป็นแสน และลูกไก่ชน ที่เลี้ยงไว้ขาย อีกนับ 100 ตัว รวมมูลค่านับล้านบาท ต้องมาตายเพราะไฟไหม้ครั้งนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบสวนเจ้าของบ้าน ซึ่งอยู่บ้านในช่วงที่เกิดเหตุ ทราบว่าเจ้าของ บ้าน ได้เสียบปลั๊กตู้เย็นซึ่งตั้งอยู่ในบ้าน ประกอบกับบ้านเกิดเหตุนั้นเป็นบ้านไม้อายุเกือบ 90 ปีแล้ว จึงเชื่อว่า สาเหตุน่าจะเกิดจาก ไฟฟ้าช็อต อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีวังน้ำซับ ซึ่งได้เข้ามาอำนวยการดับไฟด้วยตัวเอง กล่าวว่าจะหาทาง ช่วยเหลือครอบครัว ผู้ประสบอัคคีภัย ตามระเบียบ และจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออีกด้านหนึ่งด้วย โดยเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่นำเต็นท์มากาง เพื่อเป็นที่พักชั่วคราวก่อน พร้อมกับจัดหาอาหารของใช้ที่จำเป็น มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นก่อน นอกจากนี้ยังมี ผอ. โรงเรียนบ้านห้วยเจริญ ผอ.โรงเรียนสรวงสุธาวิทยาคม ซึ่งมีเด็กนักเรียน เป็นศิษย์พร้อมเขตพื้นที่ การศึกษามาให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น
