วันที่ 15 มกราคาที่ผ่านมา นักโทษ 4 ราย คือ ขช.สหรัฐ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ขช.พงศกร และ ขช.ธนวัฒน์ คดีร่วมกันค้ายาเสพติด และ ขช.พงษ์ศริ ข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ทั้งหมดสวมตรวนที่เท้า หลบหนีออกจากสถานที่กักกันโรคโควิด-19 ด้านข้างสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค ถนนประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากเรือนจำประมาณ 500 เมตร และได้ก่อเหตุชิงรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สกูปปี้ สีผ้าขาว ทะเบียน ขจง 717 ประจวบฯ ของชาวบ้าน ที่บริเวณร้านข้าวมันไก่ใต้สะพานลอย ตรงข้ามสำนักงานการประปา เพื่อหลบหนี แต่ไม่สามารถขับข้ามทางรถไฟสายใต้ไปออกถนนเพชรเกษม จึงทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีไปข้ามทางรถไฟไปแอบซ่อนตัวที่ร้านล้างอัดฉีด ตรงข้ามสนามกีฬาประจวบฯ เจ้าหน้าที่เรือนจำพร้อมผู้ต้องขังอีกจำนวนหนึ่ง จึงล้อมจับ ก่อนควบคุมตัว ขช.พงษ์ศริ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ได้ที่บริเวณใต้สะพานลอยหน้าสนามกีฬาจังหวัด นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่อีกชุด ยังสามารถจับกุมตัว ขช.สหรัฐ ผู้ต้องขังอีกราย ซึ่งถูกจับกุมที่บริเวณบนทางรถสายใต้ ใกล้ซอยดอนเหียงรอย ต่อ อบต.เกาะหลักกับเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ขณะนี้เหลือผู้ต้องขังอีก 2 ราย คือ ขช.พงศกร และ ขช.ธนวัฒน์ คดีร่วมกันค้ายาเสพติด ได้จี้ชิงรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ขับผ่านมา พร้อมกับบังคับให้เจ้าของรถซึ่งเป็นชายผู้สูงอายุ ให้นั่งซ้อนท้ายไปเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนีด้วย เบื้องต้นทิศทางคนร้ายมุ่งหน้าไปบนถนนเพชรเกษม เข้ากรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องขังแวะเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ที่ปั๊มน้ำมัน พีที บ้านบึง ริมถนนเพชรเกษม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสั่งการให้ทุกสถานีใกล้เคียงตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเพชรเกษม และเส้นทางเลี่ยงถนนสายหลักแล้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นักโทษทั้ง 4 ราย มีกำหนดกักตัว 14 วันตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขังต่อในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยอาศัยจังหวะช่วงรับประทานอาหารเย็น วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ออกมา