รถคันดังกล่าว ถูกฝังอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านบางนก-วัก หมู่ 2 ตำบลสวนหลวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่ามีร่องรอยดินกลบได้ไม่นานเมื่อกวาดดินออกส่วนหนึ่งจึงเริ่มพบซากรถ อยู่ในสภาพเสียหายถูกฝังไว้ทั้งคัน หลังจากนั้น พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนคร ศรีธรรมราช ได้สั่งให้รถแบ๊คโฮขนาดเล็กเข้าในสวนปาล์มดังกล่าวขุดรื้อพื้นที่ พร้อมทั้งกู้ซากรถขึ้นมาพบว่าเป็นเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สภาพเสียหายถูกตัดชิ้นส่วน สีบรอนด์ ยังไม่พบแผ่นป้ายทะเบียน หรือหลักฐานประจำรถและตรวจสอบในซากรถเบื้องต้นไม่พบศพตามที่วิตกตั้งแต่ต้น หลังจากนั้น ผบก.นครศรีธรรมราช ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ นำอุปกรณ์เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายซากรถคันนี้ไปยัง สภ.เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบในจุดพบรถได้เนื่องจากสภาพพื้นที่มืดและไม่มีแสงสว่างเพียงพอ
ใน ขณะที่ พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่ายังต้องตรวจสอบข้อมูลรถอย่างละเอียดรวมทั้งที่ไปที่มาที่รถมาถูกฝังอยู่ในสวนปาล์มนี้ได้อย่างไร ใครเป็นเจ้าของ ซึ่งต้องเรียกมาทำการสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนรถคันนี้เป็นรถที่มีที่มาจากที่ใด ซึ่งต้องขอเวลาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่าสวนปาล์มดังกล่าวเป็นของผู้นำท้องที่รายหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ไปติดตามเพื่อสอบหาข้อมูลที่ไปที่มาของรถคันนี้ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับสวนปาล์มว่ามีใครดูแล รวมทั้งที่มาของรถซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อมูลมากนัก ส่วนในพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่กำลังติดตามข้อมูลกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีข้อมูลในพื้นที่ว่าเป็น “แก๊งเถือรถ” หรือแก๊งชำแหละรถ ส่วนเก๋งคันนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรถที่อาจหนีไฟแนนซ์ หรือไม่อาจเป็นรถที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาชำแหละชิ้นส่วนแล้วนำซากที่เหลือฝังทำหลายหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ต้องรอการตรวจสอบที่สำคัญคือเลขตัวถัง เลขแชสซี เลขเครื่องยนต์ และเลขทะเบียน ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ