แต่ละบ้านอาจรวมตัวกันจัดตั้งชุมชนเพื่อปลูกกัญชา จัดหาพืชผลให้กับโรงพยาบาลของรัฐและสถานที่ของรัฐ หรือใช้ในการผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นแหล่งรายได้ใหม่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 5 มีนาคม
“กัญชาและกัญชงเป็นทั้งพืชเศรษฐกิจ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับชาวบ้านในการสร้างรายได้” อนุทินกล่าวในงานแสดงสินค้ากัญชาที่บุรีรัมย์ ห่างจากเมืองหลวงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 400 กิโลเมตร “เราพยายามลดข้อจำกัดเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโรงงานได้ง่ายขึ้น แต่ก็ขอร่วมมือและใช้อย่างถูกต้องด้วย” ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมายในปี 2561 แต่ยังคงถูกห้ามใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในเรื่องของความบันเทิง ดอกไม้และเมล็ดพืชใด ๆ ที่ได้จากพืชผลที่ปลูกในบ้านจะต้องถูกส่งไปยังสถานพยาบาลของรัฐ เพราะมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอยู่ในระดับสูง
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการ แต่การอนุญาตให้บ้านปลูกกัญชาได้เป็นอีกก้าวหนึ่งในการปลดเปลื้องอุตสาหกรรม โดยผู้ปลูกที่ได้รับอนุญาตจากรัฐและเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เท่านั้น สำหรับกัญชาในประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นสิ่งต้องห้ามและในบางประเทศมีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต