ผู้เสียหายคือนายเลาหลู่ สีลิ อายุ 65 ปี ลุงพิการขายลอตเตอรี่ ย่านตลาดวโรรส อำเภอเมืองเชียงใหม่ เล่าว่าตนเองนั่งขายหวยที่นี่มานานหลายปี กระทั่งสามเดือนก่อน ได้พบกับหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ปี เข้ามาพูดคุยขอซื้อลอตเตอรี่ หลังจากนั้นก็แวะเวียนมาหาและอาสาพาไปส่งที่ห้องพักหลายครั้ง จนกระทั่งสนิทสนมและมีสัมพันธ์กัน 2 ครั้ง ต่อมาหญิงดังกล่าวได้ขอเอาลอตเตอรี่งวด 1 พฤศจิกายน 64 ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้นประมาณ 400 ใบ อ้างว่าจะเอาไปขายให้ เพราะสงสารลุงที่พิการ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงินกลับมา นอกจากนี้ยังทราบภายหลังด้วยว่าหญิงคนดังกล่าวได้แอบจดดูรหัสเข้าแอปพลิเคชันธนาคารที่จดไว้ในสมุดวางไว้บนหัวเตียง เข้าไปใช้โอนเงินเก็บออกจากบัญชีไปทั้งหมด 130,000 บาท เหลือยอดเงินไว้เพียง 35 บาท
และคุณลุง ยังบอกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองถึงกับใจสลายเพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินเก็บก้อนเดียวของชีวิต ไม่เคยคิดว่าคนที่คบหากันจะมาทำกันได้ลงคอ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วว่าเงินเก็บทั้งหมดที่มีจะมอบให้หลังจากที่ตนเองเสียชีวิต แต่ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ขอเก็บไว้เป็นทุนหมุนเวียนขายลอตเตอรี่ก่อน ส่วนที่หญิงคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นภรรยาของตนนั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแต่คบหากันเท่านั้น
ทั้งนี้คุณลุง ยังวิงวอนขอให้หญิงคนดังกล่าวนำเงินมาคืนให้ทั้งหมดแล้วจะไม่เอาเรื่องเป็นคดีความ ตอนนี้ต้องการเพียงเงินมาลงทุนซื้อขายลอตเตอรี่เท่านั้น เพราะตอนนี้มีเงินติดตัวเหลือเพียง 40 บาท ไม่มีเงินไปซื้อลอตเตอรี่มาขาย ทั้งยังบอกอีกว่า เมื่อสามปีก่อนเคยถูกแม่ค้าในตลาดเดียวกัน หลอกยืมเงินไป 200,000 บาท อ้างว่าจะนำไปลงทุนปล่อยเงินกู้และจะให้ดอกเบี้ยตอบแทน ปรากฏว่าเงินจำนวนดังกล่าวหายไปพร้อมกับแม่ค้าคนดังกล่าว จะแจ้งความก็ไม่มีหลักฐาน กว่าจะตั้งต้นใหม่เริ่มมีเงินเก็บอีกครั้ง ก็มาถูกหลอกอีก