ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับใหม่ จะถูกปรับสูงสุด 5 ล้านบาทและโทษจำคุก 1 ปี สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกคำเตือนนี้ ก่อนพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ ประชาชนสามารถโพสต์รูปภาพและวิดีโอคลิปของตนเองกับผู้อื่น เพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวทางออนไลน์ได้ แต่จะถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้านำไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์ทางการค้า หรือสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้อื่น
นอกจากนี้ พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตำรวจ กล่าวว่า การติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณเตือน หากมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันอาชญากรรมและรักษาความปลอดภัย “ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถนำมาใช้ได้ ในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้า หากเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและมีจุดมุ่งหมายในการช่วยชีวิตผู้คน รวมทั้งการปกป้องผลประโยชน์และสิทธิของบุคคล และสนับสนุนการวิจัยทางสถิติและสาธารณประโยชน์”
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ย้ำว่าต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ทำสัญญา ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ใช้เพื่อช่วยชีวิต วิจัย หรือแม้แต่ทำประโยชน์ส่วนรวมเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ทั้งนี้เพื่อการปกป้องสิทธิส่วนบุคคล
ดังนั้น การถ่ายรูปติดผู้อื่นไม่ใช่ทุกกรณีที่จะผิดกฎหมาย หากรูปภาพและวิดีโอคลิปถูกอัปโหลดไปยังโซเชียลมีเดียโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้รับผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลนั้น
