สะใภ้ใจโหดทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวเนตร ซึ่งเรื่องนี้ถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียล เป็นคลิปที่นางสาวเนตร กระโดดถีบแม่สามี ตบ ตี และกระชากศีรษะ ทั้งยังใช้เท้าเหยียบศีรษะซ้ำอีก เป็นภาพที่ใครเห็นก็โมโหแทนฝ่ายสามีแน่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อรับแจ้งเหตุก็ลงพื้นที่ไปทันที พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม ซึ่งนางสาวเนตรบอกว่าเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน ซี่งตนให้เงินสามีไป 200 บาทให้ไปเปลี่ยนไฟรถจักรยานยนต์ แต่สามีหายไปนาน เมื่อโทรศัพท์ไปหา สามีก็บอกให้โอนเพิ่มให้อีก 100 บาทจะแวะซื้อกับข้าว ก่อนจะหายไปอีก ทั้งยังโทรมาขอให้โอนเพิ่มอีก 200บาท ตนเองเกิดโมโห และโทรไปต่อว่าสามีว่าให้เงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ และถ้ายังไม่กลับมาจะทำร้ายแม่สามี แต่คำขู่ไม่ได้ผล ตนเองจึงอัดคลิปส่งไปให้ ทั้งยังให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตนเองเป็นคนหารายได้เพียงลำพังด้วยการทำขนมส่งตามร้านและมีหนี้สิน แต่ที่อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความรัก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำไปเพราะความโมโห
จากข้อมูล คุณยายได้มาอาศัยอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ตั้งแต่ปี 2556 โดยอาศัยกันอยู่ทั้งหมด 6 คน และเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายคุณยายก็ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมแล้ว และสะใภ้รายนี้ก็ยืนยันว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็กลับมาเกิดเหตุการณ์อีกครั้ง ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากความเครียด และหึงหวงเวลาสามีออกไปข้างนอก และมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาคุณยาย (แม่สามี) วัย 75 ปี เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพัก ก่อนส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งคุณยายอยู่ในสภาวะจิตใจและร่างกายย่ำแย่ และมีโรคประจำตัวเป็นข้อเข่าเสื่อม ซึ่งจากนี้จะเดินทางไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ในขณะที่เรื่องการดำเนินคดีทำร้ายร่างกายอัตราโทษก็ต้องดูบาดแผลจากใบรับรองแพทย์ทางโรงพยาบาล และหากการสอบสวนเสร็จสิ้น ก็จะออกหมายเรียกสะใภ้ใจโหดมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย
