เด็กชายใจสู้คนดังกล่าว ชื่อน้องมาร์ค นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อาศัยอยู่ในพื้นที่ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนหน้านี้ช่วงกลางเดือนสิงหาคม ได้มีการนำเสนอข่าวของน้องมาร์คที่เป็นเด็กสู้ชีวิตปั่นจักรยาน ออกตระเวนเก็บของเก่าริมถนนขาย หารายได้ดูแลแม่และน้องวัยขวบเศษ จนมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ใจบุญ ยื่นมือช่วยเหลือบริจาครถจักรยานคันใหม่ มอบอุปกรณ์ก่อสร้างบ้าน และเงินทุนการศึกษารวมประมาณ 80,000 บาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา น้องมาร์ค ได้ถูกนายชัช (นามสมมติ) อายุ 36 ปี พ่อเลี้ยงเตะจนม้ามแตกต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ โดยเข้ารักษาตั้งแต่วันที่3 ตุลาคมและออกจากโรงพยาบาลวันที่8ตุลาคม ชาวบ้านเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผู้สื่อข่าวพร้อมผู้นำชุมชนจึงเดินทางลงพื้นที่ไปที่บ้านน้อง แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน จากการสอบถามชาวบ้าน ได้ให้ข้อมูลว่าน้อง ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายซึ่งพ่อเลี้ยงเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหลังมีเงินบริจาคเข้ามา และเคยเห็นกับตาว่า พ่อเลี้ยงทำร้ายน้องมาร์ค เวลาที่ใช้แล้วไม่ได้ดั่งใจก็จะทำร้ายร่างกาย ครั้งล่าสุดช่วงต้นเดือนตุลาคม น้องโดนเพ่อเลี้ยงตะตอนนั่งล้างจาน ชาวบ้านพอเข้าไปห้ามปรามก็จะถูกต่อว่าแรงๆกลับมา กระทั่งน้องมาเล่นกับเด็กข้างบ้าน เกิดบ่นว่าเจ็บท้อง เมื่อปิดเสื้อดูก็พบมีร่องรอยเขียวช้ำ จนมาทราบอีกทีว่าน้องอยู่โรงพยาบาล ชาวบ้านสงสารและหดหู่ใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ และยังบอกอีกว่าพ่อเลี้ยงใจโหดคนนี้ก็ทำร้ายแม่ของน้องมาร์คด้วยเช่นกัน และยังบังคับไม่ให้น้องนั่งร่วมวงกินข้าวด้วย ส่วนเรื่องเงินที่มีผู้บริจาคช่วยเหลือนั้นก็ไม่เห็นสร้างบ้านใหม่ แต่เงินถึงไม่เหลือ และเห็นแต่มีรถจักรยานยนต์เพิ่มมา 2 คัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายสมนึก ปรีชาพูด กำนันตำบลหัวถนน บอกว่าสาเหตุที่น้องเข้าโรงพยาบาลก็เป็นเพียงข้อมูลจากญาติและชาวบ้าน แต่ยังไม่ได้สอบถามกับตัวพ่อเลี้ยงเอง ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และจะรายงานทางอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป