อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 โมงเช้า ที่บริเวณสี่แยกแก่งเลิงจาน ถนนเลี่ยงเมืองมหาสารคาม ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพลศึกษา ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันทีหลังรับแจ้ง
เมื่อมาถึงพบรถเก๋งฮอนด้าซิตตี้สีเทา ทะเบียน ปราจีนบุรี จอดอยู่กลางถนน ด้านหน้ารถพังเสียหายและใต้ท้องรถมีร่างนายพงษ์พันธ์ สารรัตน์ อายุ 64 ปี (ผู้เสียชีวิต) ติดอยู่ ในสภาพศีรษะแตก มีแผลฉกรรจ์ที่ปาก นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ห่างออกไปไม่ไกลพบรถจักรยานยนต์สกู๊ปปี้ สีขาวฟ้า ทะเบียนขอนแก่น ล้มตะแคงอยู่ไหล่ถนน และบิ๊กไบค์สีดำทะเบียนขอนแก่น 4372 จอดอยู่ใกล้กัน
จากการสอบถามนายธนาทิพย์ วงษ์คำ อายุ 32 ปี คนขับบิ๊กไบค์ ได้ให้ข้อมูลว่าตอนเกิดเหตุเป็นไฟเขียวตนขี่รถมาทางตรง ส่วนรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิต ขี่ออกมาจากฝั่งซ้ายสุดเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าเมือง ทำให้ปาดหน้าตน จนเกิดเฉี่ยวชนจนรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตล้ม ด้าน น.ส.มินตรา ทิพยรัตน์สุนทร อายุ 23 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด (คนขับรถยนต์) อยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ได้เล่าว่า ตนขับรถมาจากบ้านที่ร้อยเอ็ดจะไปขอนแก่น จังหวะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ที่เหลืออีกประมาณ 10 วินาที ก่อนเหตุการณ์จะเกิดซึ่งตนตั้งตัวไม่ทันและเสียขวัญกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์คนขับรถยนต์ และคนขี่บิ๊กไบท์ ซึ่งผลออกมาเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนจะเชิญทั้งสองคนสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจ และประสานญาติให้มารับศพผู้เสียชีวิต