เหตุการณ์เกิดขึ้นหน้าบ้านหลังหนึ่งภายในซอยย้อยบ้านปวงตึก ม.4 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตำรวจสภ.เทนมีย์ นำกำลังลงพื้นที่มาตรวจสอบทันทีหลังรับแจ้ง
รถคันเกิดเหตุเป็นรถกระบะมิตซูบิชิสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียนสุรินทร์ พบว่าจอดขวางซอยอยู่ ส่วนช่วงท้ายรถพุ่งชนกับรั้วลวดหนามจนเสารั้วล้มลง ใต้ท้องรถพบร่างนางสมมาตร สังข์น้อย อายุ 68 ปี (อดีตข้าราชการครูวัยเกษียณ) ถูกรถทับทั้งร่างกายไปจนถึงช่วงหัวไหล่ ส่วนช่วงคอพาดรั้งอยู่กับลวดหนาม และศีรษะโผล่ออกมาช่วงท้ายรถ จากการสอบถามนายพงศกร อินทรทอง อายุ 23 ปี (คนพบศพคนแรก) เล่าว่า ช่วงทุ่มกว่า ๆ ตนขับรถจะเข้าบ้าน เห็นรถกระบะคันดังกล่าวจอดขวางอยู่ ไฟหน้าถูกเปิด แต่ไม่ได้สตาร์ทเครื่อง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้สังเกตท้ายรถว่าชนรั้วลวดหนาม ต่อมาช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ตนจะออกไปข้างนอก ก็ยังเห็นรถอยู่จุดเดิม แต่ครั้งนี้ตนเห็นว่าท้ายรถชนกับรั้วลวดหนาม รู้สึกผิดสังเกต จึงเดินมาก้มดู ก็เห็นร่างครูสมมาตรถูกรถทับอยู่ จึงรีบโทรแจ้งกู้ภัยด้วยความตกใจ
ทั้งนี้ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะขับรถมาจอด แล้วลงมาจะเปิดรั้วบ้าน แต่อาจลืมดึงเบรกมือ ประกอบกับพื้นจุดนี้มีความลาดชัน จึงทำให้รถไหลมาชนร่างผู้เสียชีวิตจนพุ่งไปกระแทกรั้วลวดหนามและถูกรถทับร่าง ซึ่งด้วยความที่เป็นผู้สูงอายุและไม่มีใครเห็นจึงไม่มีใครสามารถช่วยได้ทัน