กรณีอุบัติเหตุลิฟต์ขนของภายในร้านเย็บผ้าใบแห่งหนึ่ง ทับศีรษะเด็กชาย วัย 5 ขวบ จนเสียชีวิต ในพื้นที่ สมุทรปราการ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเสาร์ อายุ 41 ปี คนงานร้านเย็บผ้าใบที่ขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับ มาทำการสอบก่อนที่จะยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นคนดึงลิฟต์ขึ้นไปเองโดยไม่ทันมองว่าน้องบอลเอาศีรษะโผล่ออกไปนอกตัวลิฟต์ขณะที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวจากชั้นที่ 3 ขึ้นไปชั้นที่ 4 จนศีรษะของน้องบอลเข้าไปขัดกับระหว่างตัวลิฟต์และคานด้านบน และด้วยความตกใจจึงรีบปล่อยลิฟต์ถอยลงมาก่อนที่ดึงร่างของน้องบอลเข้ามาในลิฟต์พบว่าเลือดไหลจำนวนมาก จึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อร่วมงานช่วยกันอุ้มร่างของน้องบอลลงมาด้านล่างดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีชั้นลอย และ ข้างบนเป็นชั้นดาดฟ้า เป็นจุดคนงานกำลังขนของขึ้นลิฟต์ไปเก็บข้างบน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ขึ้นไปแล้วรอบหนึ่ง ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นรอบที่ 2 ซึ่งน้องบอล เป็นลูกชายของพนักงานที่ร้านดังกล่าว
ในขณะเกิดเหตุนายเสาร์ ซึ่งเป็นคนงานได้ขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับน้องบอล เพื่อนำลังกระดาษขึ้นไปเก็บที่ชั้น 4 ระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนตัวผ่านชั้นสามกำลังขึ้นไปใช้ 4 ซึ่งขณะนั้นน้องบอล นอนเล่นอยู่กับพื้นลิฟต์ จึงไม่ได้สนใจ ขณะที่ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปเกือบถึงชั้นที่ 4 ลิฟต์ได้เกิดติดขัด นายเสาร์ จึงก้มลงมาดูว่าลิฟต์ติดอะไร ก็พบว่าศีรษะของน้องบอล เข้าไปขัดอยู่ระหว่างตัวลิฟต์และคานด้านบนของชั้น 4 จึงรีบถอยหลังลิฟต์ลงมาและช่วยนำร่างของน้องบอล ออกมาได้แต่พบว่าแน่นิ่งไปแล้ว ด้วยความกลัวความผิดจึงได้อ้างว่าน้องบอล เป็นคนดึงเชือกบังคับลิฟต์เอง
หลังแจ้งข้อกล่าวหา ทางเจ้าของร้านเย็บผ้าใบดังกล่าว ได้นำเงินสดจำนวน 2 แสนบาทมาขอยื่นประกันตัวออกไป ส่วนในเรื่องแรงงาน และ ตัวลิฟต์ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ว่าการติดตั้งของลิฟต์ตัวดังกล่าวได้มาตรฐานหรือไม่ หากไม่ได้มาตรฐานก็จะเชิญตัวเจ้าของร้านที่เกิดเหตุมาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป