นางอังคณา อายุ 48 ปี เจ้าของสุนัข และเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ชื่อ “อังคณาฟาร์ม” บอกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ตนได้ติดต่อกับผู้เสียหายตลอด ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตนเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะตนก็มีลูกชายยังเล็กเหมือนกัน ที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกับพ่อแม่เด็กแล้ว โดยให้เงินช่วยเหลือไปก่อน 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าเดินทางไปรักษาที่ รพ. หลังจากนั้น ได้โอนเงินไปอีกรวมแล้วประมาณ 52,000 บาท และจากการเจรจาเบื้องต้น ทางผู้เสียหายต้องการให้ตนจ่ายค่าเยียวยาเป็นเงิน 1 ล้าน 3 แสนบาท ภายใน 1 ปี ซึ่งตนไม่มีเงินมากพอจะเยียวยาตามจำนวนได้ จึงขอผ่อนจ่าย 3 ปี แต่ผู้เสียหายไม่ยอมอบตัวจึงอยากขอความเห็นใจและอยากให้มาพูดคุยกันอีกครั้ง เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งตนพร้อมจะเยียวยาทุกอย่างเต็มที่ตามกำลังที่มี ส่วนสาเหตุที่สุนัขหลุดจากฟาร์ม ออกไปกัดเด็กนั้น ตนไม่ทราบว่าสุนัขเล็ดลอดออกไปตอนไหน และออกไปช่องทางใด เพราะหากพบรั้วลวดหนามที่ขึงไว้รอบฟาร์มมีร่องรอยชำรุดเป็นช่องโหว่ ก็จะรีบซ่อมแซม แต่นิสัยสุนัข ก็มักจะขุดดินขุดหลุม จึงคาดว่า น่าจะขุดหลุมริมรั้วแล้วมุดออกไป จนไปเจอน้องธนดล และเพื่อน ก่อนรุมกัดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ซึ่งผู้เป็นพ่อได้ออกมาร้องผ่านสื่อว่า ชายชื่อ ด.ช.ธนดล อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 สุนัขพันธุ์ ร็อตไวเลอร์ จำนวน 3 ตัว รุมกัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ศีรษะ ใบหู ลำคอ แขนขา และตามลำตัว เป็นแผลฉกรรจ์อาการสาหัส ปอดฉีก หายใจลำบาก เสียเลือดมาก จนต้องส่งตัวไปผ่าตัดและศัลยกรรมบาดแผล กว่า 12 ครั้งแล้ว ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา จนเหตุการณ์ผ่านมา 1 เดือน 11 วันแล้ว เรื่องยังไม่คืบ คู่กรณีไม่ยอมช่วยเหลือเยียวยาตามที่ตกลงกันไว้
