เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยชายเร่ร่อน ทราบชื่อคือ นายไชยา ได้ถูกนางสาวอรอุมา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ย่านสายไหม กรุงเทพมหานคร เอาน้ำร้อนสาดจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด จะพาชายเร่ร่อนคนดังกล่าวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจนครบาลสายไหม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยนางสาวอรอุมา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวให้การว่าพบว่า วันเกิดเหตุขายของอยู่มีลูกค้าเยอะ มากกว่า 10 คน และส่วนมากเป็นลูกค้าผู้หญิง และชายเร่ร่อนคนดังลก่ล่าวมีท่าทีมองคุกคามลูกค้า ตนจึงออกปากไล่ให้ไปนั่งที่อื่นแต่นายไชยาไม่ยอมฟัง ตนจึงขู่ว่าจะเอาน้ำร้อนสาด จนนายไชยายอมลงไป แต่ก็วนกลับไปมา และเกือบมีปัญหากับลูกน้องในร้าน จนตัวเองต้องเข้าไปเคลียร์ แต่นายไชยาเต้นยั่วยุและมีท่าทีเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาตน ตนเองที่ถือกระบวยลวกก๋วยเตี๋ยวมาด้วย เลยเอาสาดไป แต่ไม่คิดว่าจะโดนเยอะขนาดนี้ และตนเองก็ให้ก๋วยเตี๋ยวนายไชยากินมาตลอด 7 ปี และยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ เพราะทุกครั้งก็พูดจารู้เรื่อง ห้ามก็ฟัง ไล่ก็ไป แต่ครั้งนี้นายไชยาพูดจาไม่รู้เรื่องจึงเกิดเรื่องดังกล่าว และเมื่อสักครู่ได้เข้าไปพูดคุยกับนายไชยาแล้ว และได้เห็นบาดแผล ก็รู้สึกตกใจ เพราะวันเกิดเหตุหลังสาดก็ไม่ได้เดินกลับมาหา ตนจึงคิดว่าแค่เล็กน้อย และจากการพูดคุยก็เข้าใจกันดีทั้งนี้ ต่อจากนี้ก็ยังยินดีที่จะให้กินต่อไป แต่ขอให้มาในสภาพปกติ พูดจารู้เรื่อง และตนเองได้ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะดูแลหากต้องการให้ช่วยเหลือสิ่งใด

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินคดีกับนางสาวอรอุมา ข้อหาทำร้ายร่างกาย  ทั้งนี้ชาวบ้านในระแวกที่เกิดเหตุ ระบุว่า รู้จักนายไชยามานาน ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมรุนแรง หรือเป็นอันตรายกับคนในชุมชนแต่อย่างใด จึงไม่เห็นด้วยที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวทำร้ายร่างกายนายไชยาจนได้รับบาดเจ็บ

ส่วน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า พานายไชยามาเข้าแจ้งความที่ สน.สายไหม ก็เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่มีใครสามารถทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ โดยยอมรับว่านายไชยาก็มีส่วนผิด แต่ไม่ควรทำร้ายผู้อื่น

ด้าน นายนพดล สอนชุ่มเสียง เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า มีข้อมูลของนายไชยาอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง หรือก่อความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่เป็นคนติดสุรา ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในการหาสถานที่พักอาศัย และเข้าบำบัดอาการติดสุรา ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าตัว ขณะที่นายไชยาเองก็ยอมรับว่าพูดจาและทำพฤติกรรมที่ผิดจริง

เข้าชม 46 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ