ภาคเอกชนจะขอให้รัฐบาลตรึงอัตราค่าไฟฟ้าอย่างเป็นทางการที่ 4.72 บาทต่อหน่วยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน โดยอ้างว่าการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่
เกรียงไกร ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนคณะกรรมการร่วมพาณิชย์ อุตสาหกรรม และการธนาคาร กล่าวว่า ภาคเอกชนมีความกังวลว่าการขึ้นอัตราใด ๆ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงด้วย กับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เขาอ้างว่ารัฐบาลเวียดนามตัดสินใจตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 2.88 บาทต่อหน่วยเป็นเวลาหนึ่งปี ในขณะที่ประเทศไทยมีแผนที่จะขึ้น 14%-28% จาก 4.72 บาทต่อหน่วยเป็น 6.03 บาทต่อหน่วยตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ 1 ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) อยู่ระหว่างการวัดความคิดเห็นของภาคเอกชนและประชาชนเกี่ยวกับแผนการปรับอัตราค่าไฟฟ้าเชื้อเพลิง (FT) ซึ่งจะทำให้ราคาไฟฟ้าสูงขึ้น
OERC คาดว่าจะบรรลุการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่สำหรับใช้ในครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรมในเดือนนี้ ก่อนหน้านี้ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลจะช่วยอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้กับครัวเรือนด้วยเงินทุนจากบริษัท ปตท. (มหาชน) สำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม สกพ. จะเข้าไปช่วยเหลือเมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน