ผู้เป็นพ่อคือ นายสำราญ อายุ 69 ซึ่งได้พา น.ส.เบญญาภา อายุ 33 ปี ภรรยาใหม่ เข้าเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูก นาง นงเยาว์ อายุ 44 ปี ลูกสาวคนโต ให้ทนายทำหนังสือขับไล่ภรรยา ให้ย้ายออกจากบ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นปลูกสร้างอยู่ในที่ดินที่ ของ นาง นงเยาว์ ลูกสาวคนโต โดยอ้างว่ากรรมสิทธิ์มีชื่อครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกไล่ออกจาบ้านบอกว่าตนเองไม่เคยมีปัญหากับลูกเลี้ยงและภรรยาหลวงของสามีเลย แต่ก่อนหน้านี้มีปัญหาเล็ก ๆ น้อยเรื่องสุนัขและไก่ที่เลี้ยงไว้ และวอนลูกสาวสามีเห็นใจด้วย เพราะตนไม่มีญาติ ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
ด้านผู้เป็นพ่อร่ำไห้พร้อมตัดพ้อว่าลูกยังงดการจ่ายค่าน้ำค่าไฟมาต่อเนื่อง 3 เดือน และงดจ่ายเงินค่าส่งเสียเลี้ยงดูพ่อเดือนละ 3,000 บาทด้วย ตนยอมรับว่าไม่รู้จะทำอย่างไร ปัจจุบันไม่มีรายได้ อาศัยเพียงเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท เท่านั้น ก็มีแค่ภรรยาใหม่ที่คอยดูแล เพราะตนเองก็ป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค พร้อมยังได้พูดถึงที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยว่า ตนได้โอนให้กับลูกสาวเมื่อปี 2558 แล้ว เพราะลูกสาวเป็นคนไปไถ่ถอนโฉนดให้จากนายทุนที่ตนเองนำไปจำนองไว้ และตนเคยบอกว่าจะแบ่งที่ดินให้ลูกสาว 2 คน และอีกส่วนหนึ่ง ตนจะเก็บไว้อยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต แต่ลูกสาวกลับไปโอนต่อให้กับลูกสาวของตัวเองทั้งหมด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์ นาง นงเยาว์ ลูกสาวคนโต ได้ยอมรับว่าทำจริง เนื่องจากทนไม่ไหวที่ภรรยาใหม่ของพ่อชอบไปพูดกับชาวบ้านในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ทำให้ตนเองกับแม่ไม่สบายใจ ทั้งยังชอบยุยงให้พ่อยึดเอาที่ดินคืน ที่ผ่านมาตนก็ให้พ่อและภรรยาใหม่อยู่ในที่ดินดังกล่าวอย่างสุขสบายมาตลอด แต่สุดท้ายกลับมาทำให้ตนเองและแม่ทุกข์ใจ ตนทนไม่ได้และยืนยันว่าจะฟ้องขับไล่ภรรยาใหม่ของพ่อออกจากบ้าน ส่วนพ่อก็ยังเคารพและจะให้เงินเดือนละ 3,000 บาท เหมือนเดิม
