วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิตะ พร้อม นายภาณุมาศ จิตวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก นักธุรกิจชาวอุดรธานี และ นางสาวดุสิตา แนมขุนทด หรือ เอิร์น ภรรยาโดยชอบกฎหมายของ นายพงศธร คงเพชรศักดิ์ หรือนายฟิล์ม ร่วมกันแถลงข่าว เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่าง แม่น้ำหนึ่งหรือ นางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เจ้าแม่ใบ้หวยชื่อดัง เกี่ยวกับกระแสข่าวที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนายฟิล์ม ซึ่งเป็นลูกจ้าง โดย น้องเอิร์น ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นเพียงชาวบ้าน และเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีความรู้อะไรมากมาย ไม่สามารถที่จะมีเงินมีทองไปต่อสู้กับใครได้ แต่ที่ต้องออกมาในครั้งก็เพราะว่าจำเป็นจะต้องปกป้องสิทธิของการเป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และเรียกร้องสิทธิให้แก่ลูกทั้งสองที่ยังเด็ก พร้อมขอบคุณทนายโนบิ และเฮียเปี๊ยกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตนและลูกทั้งสอง

ทั้งนี้การฟ้องร้องคดีในครั้งนี้ ตนต้องการจะพิสูจน์ให้สังคมทราบกับสิ่งที่ตนถูกกระทำเป็นเรื่องจริง และการที่ตนโพสต์เรื่องราวเกี่ยวพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของสามีและเจ้าแม่ใบ้หวยคนดังนั้น เป็นสิ่งที่ภรรยาทุกคนที่โดนกระทำก็คงตกอยู่ในสถานะเช่นเดียวกัน จะต้องออกมาปกป้องสิทธิของตนเองเช่นกันที่ผ่านมา ตั้งแต่ทราบเรื่องดังกล่าวตัวเองก็เจ็บปวดและเก็บซ่อนน้ำไว้ไม่ให้ลูกเห็น จนกระทั่งวันที่ลูกเดินทางไปเที่ยวจังหวัดระยองโดยลูกสาววัย 8 ขวบ ได้นั่งรถไปกับนายฟิล์มซึ่งเป็นพ่อและเจ้าแม่ใบ้หวยคนดัง ลูกสาวได้เล่าให้ฟังว่าเจ้าแม่คนดังได้หอมแก้มพ่อต่อหน้าลูกของตนเอง เมื่อตนได้ยินจนถึงขั้นตกใจและใจแตกสลาย

ตลอดเวลาที่เป็นเรื่องนั้น ฝ่ายตรงข้ามพยายามที่จะคุกคามต่าง ๆ นา ๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งคนมาที่บ้านโดยอ้างว่าเป็นทนายของเจ้าแม่ใบ้หวยคนดัง เพื่อเข้ามาเจรจา ทั้งที่ตนก็ได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการจัดการให้แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่ติดต่อไปหาทนายและกลับเดินทางมาหาตนที่บ้าน ตนเองเคยแจ้งไปแล้วว่าไม่ประสงค์ที่จะเจรจาด้วยให้คุยกับทนายความเพราะตนไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย  แต่ชายปริศนาดังกล่าวก็ยังเดินทางมาที่บ้าน แต่ตนไม่ให้พบจึงได้ไปพูดคุยกับญาติของตนซึ่งเป็นที่สะใภ้ โดยพูดในทำนองที่ใช้กฎหมาย ฟ้องปิดปาก ต้องเดินทางไกลไปถึงกรุงเทพฯ อ้างว่าหากแพ้คดีนั้นตนเองจะต้องติดคุกและจะไม่มีใครเลี้ยงลูก  โดยเตือนว่าอย่าเอาไม้ซีกมางัดไม้ซุง  ซึ่งขณะที่ชายคนดังกล่าวมานั้นทางบ้านก็ได้บันเทิงเสียงไว้เพราะกลัวจะได้รับอันตราย ที่ผ่านมาตนเองต้องอดทนเป็นอย่างมากจนกระทั่งตัดสินใจที่จะยื่นฟ้องหย่าสามี และเรียกค่าทดแทนจากเจ้าแม่หวยคนดังในวันนี้ โดยน้องตนเองจะเป็นผู้ดูแลลูกทั้งสองคนแต่เพียงผู้เดียว และจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกทั้งสองคน

ด้าน นายภาณุมาศ จิตวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก นักธุรกิจชาวอุดรธานี กล่าวว่า ตนได้รับคลิปเสียงจาก จากน้องเอิร์น และเกรงว่าน้องเอิร์นและครอบครัวตลอดทั้งพยานจะถูกคุกคามจึงออกมาปกป้องและจะต่อสู้อยู่เคียงข้างน้องเอิร์นจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทั้งนี้ตนเองจะเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายตลอดทั้งค่าทนายความให้กับน้องเอิร์น

ในขณะที่ทนายโนบิตะ กล่าวว่า เฮียเปี๊ยกได้มอบคลิปเสียงให้กับตน ซึ่งมีบางช่วงบางตอนนั้นผู้ชายในคลิปปริศนา ได้พูดจาในลักษณะข่มขู่ และได้แนะนำตัวว่าตนเองเป็นทนายความ ซึ่งตนมองว่า ชายดังกล่าวไม่ใช่ศาล จึงไม่มีหน้าที่ที่จะมาตัดสินว่าใครเป็นคนผิดคนถูก อีกอย่างคดีดังกล่าวยังไม่ได้มีการฟ้องร้องในศาล ถ้าจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับน้องเอิร์นจริง ก็ขอให้ฟ้องร้องดำเนินคดีมาตามกระบวนการ ไม่ใช่มาใช้วิธีการพูดจาในลักษณะข่มขู่ให้คนที่ไม่รู้กฎหมายเกิดความหวาดกลัว ซึ่งการที่น้องเอิร์นนั้นออกมาโพสต์ในลักษณะดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิ์ในการปกป้องในฐานะภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายตามครรลองคลองธรรม หาเป็นความผิดตามกฎหมายไม่ ดังนั้นวันนี้เวลา 13.30 น. จะเป็นการยื่นฟ้องคดีโดยน้องเอิร์นจะยื่นฟ้อง นายพงษธร คงเพ็ชรศักดิ์ที่ หรือฟิล์ม เป็นจำเลยที่ 1, นางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เป็นจำเลยที่ 2 ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวนครราชสีมา เพื่อฟ้องหย่า เรียกค่าทดแทนและค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร โดยจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากนางสาวภิรดา ธนโชติจินดา เป็นจำเลยที่ 2 จำนวน 300,000 บาท และเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรทั้งสองจากนายพงษธร คงเพ็ชรศักดิ์ที่ หรือฟิล์ม จำเลยที่ 1 คนละ 5,000 จนกว่าบุตรทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ ซึ่งตนมองว่าการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูและเรียกค่าทดแทนดังกล่าวนั้น เป็นการฟ้องและเรียกตามฐานานุรูป ที่เป็นไปตามความเป็นจริงตามฐานะของโจทก์ และไม่ได้เป็นการฟ้องเพื่อกลั่นแกล้งหรือฟ้องเพื่อต้องการเงิน 2 ล้าน ตามที่มีอีกฝั่งโจมตีแต่อย่างใด

ส่วน ในกรณีเงิน 2 ล้านบาทตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างนั้นเป็น เป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองคน ซึ่งถ้าหากคำนวณจากยอด 5,000 บาท โดยคิดคำนวณจนกว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะก็จะตกประมาณเกือบ 2 ล้านบาทเช่นกัน

และในเรื่องของพยานหลักฐานนั้น ตนเองไม่ได้หนักใจในเรื่องพยานหลักฐานเพราะตนเองนั้นมีพยานหลักฐานเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ คลิปวิดีโอ และเส้นทางการเดินทางของจำเลยจาก Google map ประกอบกับภาพในเฟซบุ๊กสตอรี่ของจำเลยทั้ง 2 ที่ไม่ใช้ปกติที่ลูกจ้างนายจ้างพึงมีต่อกัน และนายฟิล์มเองก็ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ตนเองชอบแม่น้ำหนึ่ง อีกทั้งยังมีพยานบุคคลในหมู่บ้านจำนวนมากที่พบเห็นบุคคลทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกัน และมีคนสนิทคนหนึ่งของเจ้าแม่คนซึ่งเป็นคนที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาเป็นพยานในคดีด้วย ทนายโนบิตะ กล่าว

เข้าชม 12 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ