หลังเกิดเหตุทางครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นที่มาของการเดินทางเข้าร้องเรียนในครั้งนี้

 

พี่ชายผู้เสียชีวิตเล่าว่า วันที่ไปแจ้งความตำรวจร้อยเวรที่รับเรื่องแนะนำว่าสามารถเบิก พรบ. และประกันรถ จยย.ได้ 500,000 บาท แต่ต้องจ่ายเงินให้ตำรวจ 20,000 บาทก่อน จึงจะดำเนินการได้ แถมต้องเสียเงินให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานอีก 30,000 บาท ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงไปกู้ยืมเงินกองทุนหมู่บ้านมาให้ตำรวจร้อยเวรนายดังกล่าว แต่แล้วผ่านไปเพียง 1 วันหลังได้เงิน ตำรวจร้อยเวรคนดังกล่าวก็ย้ายไปประจำการที่ สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ และบ่ายเบี่ยงเรื่องการดำเนินการ พรบ. ที่สำคัญเมื่อตนเอาเอกสารไปเบิก พรบ. ก็พบว่าเอกสารที่ออกจากตำรวจไม่ถูกต้องเลย

 

พี่ชายผู้เสียชีวิตยังบอกด้วยว่า คู่กรณีเจ้าของรถไถพ่วงได้ยื่นข้อเสนอกับครอบครัวมาว่าจะเยียวยาค่าเสียหายเพียง 35,000 บาท  จะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่ เพราะมีให้เพียงเท่านี้ ซึ่งตนมองว่ามันไม่ยุติธรรม เนื่องจากรถไถพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่มี พรบ. ที่สำคัญไม่ควรขับในยามวิกาลเพราะไม่มีไฟรถ

 

ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเผยว่าหลังรับหลักฐานทั้งหมดจากการร้องเรียนวันนี้ จากนี้จะตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งเคสดังกล่าวถือว่าผิดปกติ จึงขอฝาก ผบ.ตร.ให้รีบตรวจสอบ หากคดียังไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรมก็พร้อมจัดหาทนายว่าความให้ผู้เสียหายฟ้องร้องต่อไป

เข้าชม 8 แชร์ 0
เกาะติดประเด็นสำคัญกดติดตาม "ข่าวสเตชั่น"

สังคมอื่นๆ