เรื่องนี้เปิดเผยจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ สภ.เมืองราชบุรี ได้โพสต์ภาพนักเรียนหญิงคนหนึ่ง กำลังร้องเพลงเปิดหมวก บริเวณตลาดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี พร้อมระบุว่า "#เปิดเพลงเสียงดัง วันที่ 11 พฤศจิกายน เหตุเปิดเพลงเสียงดัง เบื้องต้น เป็นนักศึกษามาเปิดหมวกโชว์พลังเสียงเพื่อเป็นทุนการศึกษา ได้ว่ากล่าวให้เบาเสียงลงเรียบร้อย เหตุการณ์ทั่วไปปกติ"ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความจำนวนมาก ส่วนใหญ่ได้ตำหนิและต่อว่าคนที่แจ้งตำรวจ รวมไปถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งยังได้พากันให้กำลังใจนักศึกษาหญิงคนดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องนักศึกษาคนนี้ชื่อ นางสาวปวีณา รวมศิลป์ หรือ น้องกิ๊ฟ อายุ 18 ปี มีบ้านอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เป็นนักเรียนการศึกษานอกโรงเรียน ระดับชั้น มัธยมปลาย ที่ อ.จอมบึง จึงได้ไปพูดคุยถึงสาเหตุที่ต้องมาร้องเพลงเปิดหมวก น้องกิ๊ฟ เผยว่าพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนเองยังเล็ก ๆ ตนอาศัยอยู่กับปู่และย่า โดยพ่อมีอาชีพขายของตามตลาดนัดต้องเดินทางอยู่เสมอ จนตนเองขึ้น ม.1 และไม่มีใครส่งเสียให้เรียนหนังสือ จึงออกไปร้องเพลงตามงานต่าง ๆ และไปเปิดหมวกร้องเพลงตามตลาดนัดเพื่อหาเงินมาเรียนและเลี้ยงดูปู่กับย่าด้วย ทำให้ตนนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัว จนเรียนจบการศึกษาชั้น มัธยมต้น และเลือกเรียนการศึกษานอกโรงเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อเสียสละให้พี่สาวที่กำลังจะจบชั้น มัธยมศึกษาชั้นที่6 และน้องชายที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษาอย่างเต็มที่ ส่วนตนก็ออกมาร้องเพลงตามตลาดทั่วๆ ไป ทั้งในจังหวัดราชบุรี และอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี และที่ผ่านมาตนก็เคยไปประกวดร้องเพลงหลายเวทีทางรายการทีวี จนได้เป็นแชมป์หลายสมัย และได้เป็นลูกศิษย์ของครูสลา คุณวุฒิ เงินที่ได้มาก็จะนำมาเป็นทุนการศึกษาของตนเองและดูแลครอบครัว
ส่วนประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น ตนตื่นตั้งแต่ตี 5 และออกจากบ้านที่อำเภอจอมบึง มาถึงตลาดสดเทศบาลเมืองราชบุรีก็ร้องเพลงเปิดหมวกตามปกติ จน มีตำรวจมาบอกให้เบาเสียงลงหน่อยเพราะมีคนโทรไปร้องเรียน ตนก็เลยตัดสินใจเก็บของกลับ ตอนนั้นตนก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่ทางพี่ตำรวจก็ใจดีบอกว่าให้ร้องต่อได้และยังนำเงินหยอดในตู้รับบริจาคให้อีก 50 บาท แต่ตนก็กลัวว่าทางคนร้องที่โทรไปแจ้ง จะไม่สบายใจจึงเก็บของกลับดีกว่า แต่ก็จะมาร้องเพลงใหม่อีก
ซึ่งเรื่องนี้ตนโดนเป็นประจำ ทั้งที่ไม่ได้เปิดลำโพงดังอะไรมากมาย และไม่ทราบว่าจะเป็นข่าวขึ้นมา จนพี่สาวมาบอกเมื่อคืนว่า มีคนนำไปลงในโซเซียลถึงได้ทราบ
