เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยมีการแชร์ไลฟ์สดของชายคนหนึ่ง มีอาชีพเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้า ที่อุ้มเด็กผุู้หญิง โดยบริเวณลำคอมีเชือกคล้องอยู่ ซึ่งเด็กส่งเสียงร้องบอกว่า ว่า "หนูกำลังหายใจไม่ออกแล้ว หนูกลัว" ซ้ำไปซ้ำมา ท่ามกลางความเป็นห่วงของชาวเน็ต
กระทั่งช่วงเวลา 4 ทุ่ม วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางมด และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยปอเต๊กตึ๊ง ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังที่เกิดเหตุ อยู่ในซอยชุมชนป้าแดง ถนนพระราม 2 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง
กรุงเทพมหานคร เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณด้านในของห้องที่เกิดเหตุดังกล่าว พบที่นอนหมอนมุ้งที่ปูไว้อย่างดี ภายในห้องพบหนังสือเรียน ชั้นเตรียมอนุบาล เสื้อผ้าและอุปกรณ์การเลี้ยงเด็กยังวางอยู่บนพื้นห้อง ถัดมาจุดเกิดเหตุบริเวณห้องอาบน้ำพบกับม้วนเชือกถักสีดำ ซึ่งเป็นเชือกที่ใช้ก่อเหตุอยู่ตรงบริเวณพื้น 1 ม้วน และอ่างใส่น้ำที่สำหรับไว้ใช้อาบน้ำเด็ก 1 ใบ ภายในอ่างน้ำพบว่ามีน้ำอยู่เต็มอ่าง และยังเห็นว่ามีจระเข้ยางตัวใหญ่อยู่ในอ่างอาบน้ำของเด็กอีกด้วย และจากการที่สังเกตจากภาพด้านหลังในคลิปมีสภาพตรงกันกับสภาพภายในห้องที่พบ ส่วนบริเวณหน้าห้องพบกับตุ๊กตาหมี ในลักษณะแขวนไว้กับฝาผนังห้องอยู่ 2 ตัว แต่ไม่พบตัวเด็กกับผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะพาเด็กหนีไปแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือการกระทำครั้งนี้ ทางญาติเผยว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว และอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เพราะสงสารเด็กมาก ไม่อยากจะให้อยู่กับคนแบบนี้กลัวว่าวันหนึ่งอาจจะพลั้งมือฆ่าเด็กตายจริงๆ สักวัน จึงอยากจะวอนให้ช่วยเหลือเด็กด้วย โดยญาติให้ข้อมูลว่า พ่อของเด็กเป็นหลานเขยอยู่อีกห้องหนึ่ง อยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ทำงานส่งพัสดุกันทั้งผัวเมีย แต่มักจะมีเรื่องทะเลาะกัน จนเมียหนีไปอยู่บ้านแม่
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็น่าจะทำประชดภรรยา แต่เด็กไม่เป็นอะไร เพราะเห็นเดินออกไปเมื่อตอน 6 โมงเย็น บอกกลับไปบ้านที่ จังหวัดสุรินทร์ น่าจะไปกับพรรคพวก เพราะเห็นเข้ามาหาและออกไปด้วยกัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด รวมทั้งได้เก็บหลักฐานหลายรายการไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถามถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งที่ สน. ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ล่าสุด วันที่ 8 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายนิรันด์ สกุลรักษ์ ผู้ก่อเหตุ และลูกสาววัย 3 ขวบ ได้แล้วในพื้นที่ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกำลังนำตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสอบปากคำ ในขณะที่นางผกาแก้ว ภรรยาของนายนิรันด์ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำ โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและสวัสดิการมนุษย์ (พม.) เข้าร่วมรับฟัง โดยได้ให้การว่า สาเหตุที่สามีก่อเหตุเนื่องจากหึงหวงตนเอง คิดว่าตนนอกใจอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่มีเหตุผล และทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง ตนจึงตัดสินใจตีตัวออกห่าง และออกจากบ้านมาได้ 2 เดือนแล้ว ทำให้สามีไม่พอใจและประชดโดยการไปรับลูกสาวที่อยู่ในความดูแลของครูในโรงเรียนประจำ ที่ปกติจะกินนอนอยู่ที่นั่น ก่อนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น "สามีเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อนแต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำให้เห็น จึงไม่คิดว่าสามีจะทำกับลูกรุนแรงถึงขนาดนี้ ส่วนตัวหลังจากนี้จะเดินทางไปรับลูกสาวโดยขออำนาจในการรับเลี้ยงดูลูกไว้เอง" นางผกาแก้ว ระบุ